ศูนย์ข่าวศรีราชา-โชว์เฟอร์ตีนผีขับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ชนท้ายกระบะที่จอดเลี้ยว แต่ไม่เปิดสัญญาณ ก่อนพุ่ง ชนประสานงากับรถตู้ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 2 ราย
วันนี้ (13 พ.ย.55) ร.ต.อ.โสภณ นิธิกุล ร้อยเวร สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ชนท้ายรถกระบะ พุ่งไปชนประสานงากับรถตู้รับส่งพนักงาน มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ที่เกิดเหตุบนถนนสายหนองแขวะ-บ่อวิน บริเวณหน้าบริษัทตระการกิจ อินเตอร์เทค จำกัด ม.4 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และการจราจรติดขัดยาวเป็นกิโลฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา
ในที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์ ยี่ห้อฮีโน สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-2230 กทม บริษัทนิปปอน คอนโป (ประเทศไทย) จำกัด สภาพด้านหน้าพังเสียหาย ใกล้กันพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบอน หมายเลขทะเบียน ฮจ-4535 กทม รถส่งพนักงานของ บริษัทสหพัตน์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน พบผู้บาดเจ็บจำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.อ่าวอุดมให้แพทย์ทำการรักษา และใกล้กับรถตู้พบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บว -6101 ชลบุรี สภาพพังยับเยิน และพบศพนาง กรทิวา กรวาทิน อายุ 40 ปี เป็นนายประกันของบริษัทวิริยะประกันภัย กระเด็นออกมาจากรถกระบะ สภาพศพแขนขาและคอหัก เสียชีวิตคาที่ ส่วนอีกราย ชื่อนางประภาวรินทร์ นักบุญ อายุ 45 ปี สภาพศพ ศีรษะเปิดเลือดไหลไม่หยุดแนนหน้าอก เสียชีวิตกลางทางระหว่างนำส่ง โรงพยาบาล
จากการสอบถามนายพีรพล เวหา อายุ 34 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ คันดังกล่าว ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้ขับรถมุ่งหน้าเข้าหนองแขวะมาตามเส้นทางดังกล่าว พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถกระบะของนางกรทิวา ที่มากับนางประภาวรินทร์ ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต จอดเลี้ยวขวา แต่ไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงลงเนิน ตนได้ขับมาด้วยความเร็ว ไม่นึกว่ารถกระบะจะจอด และพยายามที่จะเบรกอย่างกระทันหัน แต่เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายรถกระบะก่อนพุ่งไปชนประสานงานกับรถตู้ที่นายไพบูลย์ หอมยางเย็น อายุ 36 ปี เป็นคนขับรับพนักงานมุ่งหน้ามาทางบ่อวิน เข้าอย่างแรง และเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.อ่าวอุดม เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรเบื้องต้น ก่อนควบคุมตัวโชว์เฟอร์ตีนผีมาทำการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
