นครปฐม - ภาค 7 สั่งเด้ง “พ.ต.ท.ปราณบุรี” แก๊งล่าสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไปช่วยราชการที่ภาค 7 ลั่นหากพบมีส่วนเกี่ยวพันกับการล่าสัตว์ก็จะถูกดำเนินคดี และทางวินัยร้ายแรงด้วย ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เชื่อ “พ.ต.ท.” รู้เห็นการล่าสัตว์ป่าตั้งแต่แรก
วันนี้ (13 พ.ย.) พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าไปมีส่วนร่วมในแก๊งลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า จากสำนวนการจับกุม และบันทึกการสอบสวนเบื้องต้น ทางตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ภาค 7 ระหว่างรอผลการสอบข้อเท็จจริง และผลการสอบสวนทางคดีของพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการล่าสัตว์ก็จะถูกดำเนินคดี และทางวินัยร้ายแรงด้วย นอกเหนือไปจากความผิดในประเด็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ปล่อยให้มีการล่าสัตว์ป่าซึ่งหน้า
ด้าน พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สอบถามความคืบหน้ากับทาง บช.ภ.7 ที่ได้รายงานว่ามีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ บช.ภ.7 โดยเบื้องต้น แจ้งข้อหาบุกรุกเข้าไปในอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่มีการเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาทก่อนทำการปล่อยตัวออกมา แต่จะมีส่วนในการลักลอบล่าสัตว์ด้วยหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นประธานคณะกรรมการดังกล่าว
ทางด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ในการจับกุมผู้ล่าสัตว์ป่า ประกอบด้วย พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกรวม 9 คน โดยติดตามจับกุมได้ที่ป่าห้วยแม่ประโดน หมู่ที่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนถึงขณะนี้ยังคงมั่นใจว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธ มีส่วนร่วมในการล่าสัตว์ป่าตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพียงแค่อาศัยเรือของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนตามกล่าวอ้างแต่อย่างใด
แต่ในชั้นแรกเจ้าตัวอ้างเป็นนายตำรวจ และอ้างข้อกฎหมายรวมทั้งปฏิเสธไม่ได้ร่วมกระทำความผิด และไม่ใช่เจ้าของอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ขณะจับกุม ประกอบกับผู้ต้องหารายอื่นสมอ้างรับเป็นเจ้าของ และยังปฏิเสธในการร่วมแถลงข่าวการจับกุมตั้งแต่ต้น สิ่งที่ทำได้จึงดำเนินการได้เพียงแค่เปรียบเทียบปรับในข้อหาเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตในชั้นต้น
“จนถึงขณะนี้ต้องรอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ยึดได้ว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธเป็นเจ้าของ หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ จึงจะสามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ส่งตัวไปแล้ว ขณะนี้รอรายงานผลการตรวจสอบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ตรวจยึดได้ ซึ่งผมเองได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานพร้อมทั้งหลักฐานทั้งหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายชัยวัฒน์กล่าว
วันนี้ (13 พ.ย.) พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าไปมีส่วนร่วมในแก๊งลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า จากสำนวนการจับกุม และบันทึกการสอบสวนเบื้องต้น ทางตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ภาค 7 ระหว่างรอผลการสอบข้อเท็จจริง และผลการสอบสวนทางคดีของพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการล่าสัตว์ก็จะถูกดำเนินคดี และทางวินัยร้ายแรงด้วย นอกเหนือไปจากความผิดในประเด็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ปล่อยให้มีการล่าสัตว์ป่าซึ่งหน้า
ด้าน พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สอบถามความคืบหน้ากับทาง บช.ภ.7 ที่ได้รายงานว่ามีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ บช.ภ.7 โดยเบื้องต้น แจ้งข้อหาบุกรุกเข้าไปในอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่มีการเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาทก่อนทำการปล่อยตัวออกมา แต่จะมีส่วนในการลักลอบล่าสัตว์ด้วยหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นประธานคณะกรรมการดังกล่าว
ทางด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ในการจับกุมผู้ล่าสัตว์ป่า ประกอบด้วย พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกรวม 9 คน โดยติดตามจับกุมได้ที่ป่าห้วยแม่ประโดน หมู่ที่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนถึงขณะนี้ยังคงมั่นใจว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธ มีส่วนร่วมในการล่าสัตว์ป่าตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพียงแค่อาศัยเรือของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนตามกล่าวอ้างแต่อย่างใด
แต่ในชั้นแรกเจ้าตัวอ้างเป็นนายตำรวจ และอ้างข้อกฎหมายรวมทั้งปฏิเสธไม่ได้ร่วมกระทำความผิด และไม่ใช่เจ้าของอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ขณะจับกุม ประกอบกับผู้ต้องหารายอื่นสมอ้างรับเป็นเจ้าของ และยังปฏิเสธในการร่วมแถลงข่าวการจับกุมตั้งแต่ต้น สิ่งที่ทำได้จึงดำเนินการได้เพียงแค่เปรียบเทียบปรับในข้อหาเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตในชั้นต้น
“จนถึงขณะนี้ต้องรอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ยึดได้ว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธเป็นเจ้าของ หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ จึงจะสามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ส่งตัวไปแล้ว ขณะนี้รอรายงานผลการตรวจสอบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ตรวจยึดได้ ซึ่งผมเองได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานพร้อมทั้งหลักฐานทั้งหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายชัยวัฒน์กล่าว
