ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มชาวเดนมาร์กเข้าร้อง ผกก.สภ.แสนสุข หอบหลักฐานมาให้ช่วยหารถยนต์หรูคู่ชีพที่หายไปจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชลบุรี นานเกือบเดือนให้ หลังจากที่รู้ข่าวว่า ตร.แสนสุข ชำนาญเรื่องการค้นหาคนร้ายแก๊งลักรถยนต์ จากการแนะนำของเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน
วันนี้ (12 พ.ย.) Mr.Mircea Constantin Popescu วัย 65 ปี หนุ่มใหญ่ชาวเดนมาร์ก ชวนแฟนสาวหอบหลักฐานรถยนต์ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ ที่ตนเป็นเจ้าของ มาให้ พ.ต.อ. อิทธิพร โพธิทอง ผกก.สภ.แสนสุข เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยหารถยนต์ให้ หลังที่ตนเองได้เสียรถคู่ชีพราคานับล้านไป เพียงแค่ไม่ถึง 5 นาที หลังจากที่จอดรถยนต์ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กล 9650 ชบ. รุ่นสมาร์ท ไว้ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ต.ค.55 ที่ผ่านมา เพื่อจะลงไปซื้อของภายในห้างดังกล่าว
หลังจากที่ตนลงไปประมาณ 5 นาที จึงกลับมาที่รถก็พบว่ารถของตนกำลังขับเคลื่อนออกจากจุดที่จอดไปแล้ว จึงได้โทร.ไปบอกแฟนสาวชาวไทย ชื่อ นางยุพรัตน์ โปเปสซ อายุ 40 ปี ทันทีว่ารถที่ตนขับขี่มานั้นโดนโจรกรรมไปแล้ว ขอให้ช่วยแจ้งความเจ้าหน้าที่ ตร.ให้ด้วย เพราะตนเองไม่ทราบว่าจะไปแจ้งที่ใด
หลังจากนั้น แฟนสาวได้แจ้งเหตุ 191 ทันที เพื่อจะให้มาช่วยดูในที่เกิดเหตุ เพราะเหตุเกิดไม่เกิน 5 นาที และเป็นช่วงเย็น เวลา 17.00น.คาดว่าคนร้ายจะหนีไปได้ไม่ไกล แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับให้ตนเองเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เสม็ด แล้วย้อนกลับมาดูในที่เกิดเหตุของวันดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อให้ไปขอข้อมูลดูกล้องวงจรปิดกับทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชลบุรี ซึ่งใช้เวลานานนับชั่วโมง
หลังจากนั้น ตนเองได้ประสานงานกับทางห้างฯ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกับให้ดูกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ จนสามารถมองเห็นรถของตนเองขับผ่านด่านไปต่อหน้าต่อตา แต่มองไม่เห็นผู้ขับขี่ ทางเจ้าหน้าร้อยเวร สภ.เสม็ด ที่จึงขอนำไปประกอบเพื่อตรวจสอบข้อมูล
ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุรวมเวลาแล้วเกือบ 30 วันก็ยังไม่วี่แววที่จะได้รถของตนคืนมาจึงได้เดินทางมาที่ สภ.แสนสุข ตามคำแนะนำจากเพื่อนๆ ร่วมชาติเดียวกันให้มาพบกับ พ.ต.อ.อิทธิพร โพธิ์ทอง ผกก.สภ.แสนสุข ให้ช่วยตามหาอีกแรง
ทางด้าน พ.ต.อ.อิทธิพร เห็นว่า เป็นชาวต่างชาติจึงได้แบ่งรับแบ่งสู้เนื่องจากไม่ใช่เขตพื้นที่ของตนแต่ก็ได้รับเรื่องไว้พร้อมกับเก็บข้อมูลทั้งหมดส่งให้ พ.ต.ท.ปพนพัชร ใบยา พร้อมทีมงานไปดำเนินการต่อทันที เพราะมีหลักฐานบางอย่างที่พอจะเสาะหาตัวคนร้ายชุดนี้ได้ คาดว่าจะเป็นชุดเดียวกันกับที่เคยเข้ามาโจรกรรมในเขตพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เป็นเป้าหมายหลัก