xs
xsm
sm
md
lg

หนึ่งเดียวในโลก! สร้าง“พระสีวลี” ปางถือไอแพด-ชี้พระยุคใหม่ใช้เทคโนฯ สอนธรรมะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัดชัยศิลานิมิต บ้านจบก-หนองเหล็ก ต.บ้านผือ อ.จอมพระ สุรินทร์ ประกอบพิธีเททองหล่อ พระสีวลี ปางถือไอแพด รุ่น “มหาลาภ ทันโลกโภคทรัพย์” ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี  พุทธศักราช 2555
สุรินทร์-ฮือฮา! หนึ่งเดียวในโลก ครั้งแรกในพุทธศาสนา วัดชัยศิลานิมิต อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ สร้าง “พระสีวลี ปางถือไอแพด” แทนถือไม้เท้า ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี พระสงฆ์ต้นคิดชี้ต้องการสื่อความหมายพระสงฆ์ต้องทันยุคสมัยนำเทคโนโลยีมาใช้สอน-สื่อสารธรรมกับคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงพุทธศาสนา พร้อมย้ำแนวทางหลุดพ้น “ไม่ยึดมั่นถือมั่น” ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งดีมาใช้ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด เผยขณะประกอบพิธีฝนตกหนัก เกิด “สายรุ้ง” ครอบพระอุโบสถ ชาวบ้านเชื่อเป็นอภินิหารสิ่งศักดิ์สิทธิ์

วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่วัดชัยศิลานิมิต บ้านจบก-หนองเหล็ก ต.บ้านผือ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นประธานประกอบพิธีเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด รุ่น “มหาลาภ ทันโลก โภคทรัพย์” ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี พุทธศักราช 2555 โดยมี พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่ามกลางพระสงฆ์ และประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

โดยก่อนที่จะมีการประกอบพิธีพราหมณ์ และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เกิดฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า 30 นาที ทำให้น้ำเจิ่งนองไปทั่วบริเวณประกอบพิธีเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด และเมื่อฝนหยุดตกปรากฏว่าท้องฟ้าเหนือพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างได้เกิดปรากฏการณ์รุ้งเจ็ดสีขึ้นมาเป็นรูปโค้งครอบหลังคาโบสถ์เป็นเวลานานกว่า 15 นาที และเมื่อเริ่มประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปได้ประมาณ 10 นาที แสงรุ้งเจ็ดสีก็จางหายไป

ปรากฏการณ์ดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจแก่พระสงฆ์ ชาวบ้าน และผู้มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงอภินิหารปรากฏให้เห็น

จากนั้นเมื่อถึงช่วงเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด ทางวัดชัยศิลานิมิตได้นำช้างแสนรู้จำนวน 2 เชือกมารับทองจากญาติโยมเพื่อนำไปเททองหล่อพระสีวลี ซึ่งช้างได้แสดงความสามารถช่วยหยิบทองเปลว ทองแผ่น มาใส่ในถาดรองด้วยผ้าขาว แล้วช่างเททองก็นำไปเททองหล่อพระสีวลี ปางถือไอแพด โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธี ประกอบด้วย หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู จังหวัดอุบราชธานี, หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม จังหวัดบุรีรัมย์, หลวงพ่อสอ วัดศรัทธารมณ์ จังหวัดสุรินทร์, หลวงพ่อสุข วัดบ้านตาโน จังหวัดสุรินทร์, หลวงพ่อมา วัดบ้านสโน จังหวัดสุรินทร์ และหลวงพ่อทองคำ วัดป่าเทพประทานพร จังหวัดสุรินทร์

พระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสัสโร ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว่า การที่ได้นำแนวคิดการเททองหล่อพระสีวลีในปางถือไอแพดเพราะต้องการสื่อความหมายว่า พระสงฆ์ทุกวันนี้อยู่ในโลกที่กว้างไกลเต็มไปด้วยเทคโนโลยี พระสงฆ์ต้องตามเรื่องนี้ให้ทันจะได้ไม่ตกยุคสมัย และต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยสอนญาติโยมคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงพระพุทธศาสนาเพราะเด็กหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้แล้วห่างวัดไม่ฟังธรรม แนวทางที่พระสงฆ์จะทำได้คือการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้แล้วใช้สอนธรรมะกับคนรุ่นใหม่ สื่อสารธรรมะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนใครจะว่าอะไรอาตมาสามารถตอบคำถามกับสังคมได้

“อีกประการหนึ่งคือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะตามวัดต่างๆ ญาติโยมจะเห็นพระสีวลีปางถือไม้เท้า นั่นเป็นการยึดมั่นถือมั่น ทำอย่างใดก็ทำอยู่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่ยึดมั่น เปลี่ยนแปลงได้ นำสิ่งที่ดีมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ติดภาพลักษณ์เดิมๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด อันเป็นการหลุดพ้น ละวาง ซึ่งเป็นแนวทางของศาสนาพุทธ” พระครูปลัดวิสุทธิ์กล่าว

อนึ่ง ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา “พระสีวลีเถระ” หรือ “พระสีวลี” เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนา ในสมัยพุทธกาล

พระสีวลีเถระเป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ ออกผนวชในสำนักพระสารีบุตร และบรรลุพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศา และหลังจากผนวชเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ทำมาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้จึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง “ผู้มีลาภมาก”

คนไทยเชื่อว่าผู้ใดได้บูชาพระสีวลีเถระจะได้รับโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งเชื่อว่าเคยมีผู้หนึ่งเคยได้รับมาแล้วในสมัยพุทธกาลคือ มีหญิงสาวคนหนึ่งเกิดในตระกูลพ่อค้า ชื่อ “นางสุภาวดี” ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาพระพุทธศาสนา และนับถือพระสีวลีเถระเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ฟังธรรมจนลึกซึ้ง พระสีวลีให้ศีลและให้พรว่า จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย ไหลมาเทมาสมปรารถนา หลังจากได้รับพรจากพระสีวลีเถระแล้ว ไม่ว่าจะไปค้าขายที่ใดก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีแต่กำไรหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป ซึ่งนางสุภาวดีนั้นเป็นที่รู้จักตามความเชื่อของคนไทย คือ “นางกวัก” นั่นเอง









กำลังโหลดความคิดเห็น