กาฬสินธุ์ - สถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวที่จังหวัดกาฬสินธุ์พบว่าปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเหลือน้ำอยู่เพียง 383 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนลำปาวต้องลดปริมาณการส่งน้ำเหลือเพียงวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าในอนาคตอาจจะกระทบต่อการผลิตน้ำประปา ขณะที่จังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มอีก 2 อำเภอ
จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าความแห้งแล้งที่ปกคลุมส่งผลให้ทางจังหวัดได้ประกาศให้อำเภอสมเด็จ อำเภอคำม่วง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง จากเดิมที่มี 7 อำเภอเป็น 9 อำเภอ โดยกำชับให้ทุกอำเภอดูแลในเรื่องน้ำดื่มเป็นอันดับแรก
รองลงมาให้เร่งหาพื้นที่ชักลอกน้ำจากแม่น้ำปาว ลำน้ำชี เข้ากักเก็บไว้ให้ประชาชนใช้เพื่อการอุโภคบริโภค กับการฟื้นฟูบ่อบาดาลที่ชำรุดเสียหายให้กลับมาใช้การได้ ซึ่งอำเภอที่ประกาศภัยแล้งสามารถใช้งบประมาณได้อำเภอละ 1 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวในปัจจุบันยังพบว่า ปริมาณน้ำเขื่อนเหลือเพียง 383 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 20 ซึ่งเหลือน้ำใช้การได้เพียง 287 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนต้องลดปริมาณการปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ประชาชนเกรงว่าหากการระเหยของความร้อนเกิดขึ้นต่อเนื่องน้ำจะไม่เพียงพอผลิตน้ำประปา
ทั้งนี้ เพราะในขณะนี้ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์น้ำประปาหลายชุมชนเริ่มไหลช้าเหมือนมีการปิดเปิดเป็นเวลา ซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในเทศบาลฯ แล้ว
สภาพอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวและแหล่งน้ำตามธรรมชาติต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เริ่มแห้งขอดจนมองเห็นพื้นดิน ซึ่งหนักสุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน