บุรีรัมย์ - หลังล่าช้ามานานร่วมเดือนโรงสีข้าวบุรีรัมย์เพิ่งเปิดจุดรับจำนำได้ 1 แห่ง จากที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 19 แห่ง เตรียมเปิดเพิ่มอีก 6 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างทำสัญญาและวางเงินค้ำประกัน คาดเปิดครบไม่เกินสัปดาห์หน้า เผยยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวเข้าจำนำแม้แต่รายเดียว แต่ขนข้าวมาขายแทน
วันนี้ (28 ต.ค.) นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 ของจังหวัดบุรีรัมย์ว่า ล่าสุดทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้อนุมัติรับรองคุณสมบัติโรงสีที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้ง 19 แห่งแล้ว
ขณะนี้ มีโรงสีที่ทำสัญญาและวางเงินค้ำประกันกับ อคส.ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ สามารถเปิดรับจำนำข้าวของเกษตรกรได้แล้ว 1 แห่ง หลังล่าช้ามานานร่วมเดือน คือ โรงมณีราชกิจ 2 ตั้งอยู่ที่ อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ แต่ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการแม้รายเดียว มีเพียงเกษตรกรบางส่วนที่จำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่าย และชำระหนี้สิน ได้นำข้าวเปลือกสดที่เก็บเกี่ยวใหม่ไม่ตากแห้งไปขายยังโรงสีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงกลางเดือน พ.ย. เกษตรกรจะเริ่มทยอยนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ สำหรับโรงสีอีก 18 แห่งที่ยังไม่สามารถเปิดรับจำนำได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการทำสัญญาและวางเงินค้ำประกันนั้น คาดว่าในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค.ที่จะถึงนี้ น่าจะสามารถเปิดเพิ่มได้อีก 6 แห่ง และส่วนที่เหลือคงจะทยอยเปิดครบทุกแห่งได้ไม่เกินสัปดาห์หน้านี้
นายสุทธิศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนโกดังกลางที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้ง 4 แห่ง คือ หจก.เอ็นเอ็นที 1999 (ตลาดกลางข้าวและพืชไร่) อ.เฉลิมพระเกียรติ, โกดังพัฒนาพาณิชย์ อ.พุทไธสง, บริษัทเอกวินเทรดดิ้ง อ.ประโคนชัย และโกดังปรีชาพาณิชย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติรับรองคุณสมบัติจาก อคส. ซึ่งคาดว่าจะผ่านการอนุมัติในเร็วๆ นี้เช่นเดียวกัน
สำหรับโกดังกลางทั้ง 4 แห่งจะสามารถรองรับจัดเก็บข้าวสารที่สีแปรสภาพแล้ว จากโรงสีที่รับจำนำข้าวของเกษตรกร ได้กว่า 43,000 ตัน หรือกว่า 434,000 กระสอบ ทั้งนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวแล้วไปตากให้แห้ง ก่อนนำไปเข้าร่วมโครงการจำนำ เพื่อจะได้ไม่ถูกหักความชื้นและได้เปอร์เซ็นต์ข้าวที่สูงอีกด้วย