เชียงราย - 2 นายสับทหารขนอาวุธปืนพก บุกบ้าน สจ.-กำนันคนดังของอำเภอแม่จัน เมืองพ่อขุนฯ ตำรวจเข้าไปเจรจาปลดอาวุธไม่ได้ผล ต้องออกแรงกอดรัดฟัดเหวี่ยง จนเจอตบ-ยิงกระสุนเฉียดหน้า สุดท้ายต้องระดมกำลังกว่า 30 นายเข้าคุมตัวจนได้
รายงานข่าวจาก จ.แจ้งว่า ร.ต.ต อนุชาติ วงศ์ปัญญา ร้อยเวร สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก ร.ต.ต.สามารถ ทันใจ หัวหน้าตู้ยามสันกอง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน ว่า ได้เกิดเหตุคนยิงปืนข่มขู่กันที่หน้าบ้านเลขที่ 89/4 บ้านฮ่องแฮ่ ม.4 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน คืนที่ผ่านมา จึงร่วมกันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวซึ่งเป็นของนายเสน่ห์ ปัญญาดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เขต อ.แม่จัน หลายสมัย และภรรยาคือนางวันเพ็ญ ปัญญาดี กำนัน ต.แม่ไร่
เมื่อไปถึงพบชายฉกรรจ์จำนวน 2 คนถือปืนอยู่ จึงเข้าไปเจรจาระงับเหตุแต่ปรากฎว่า มีการขัดขืนจึงต้องลงมือกอด รัดฟัดเหวี่ยง เพื่อปลดอาวุธ จน ร.ต.ต.สามารถ ถูกตบและยิง แต่กระสุนเฉียดใบหน้าไปเล็กน้อย จากนั้นคนร้ายได้ยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 2 นัด
หลังจากนั้น พ.ต.อ.วีระวุธ ชัยชนะมงคล ผกก.สภ.แม่จัน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นายไประงับเหตุ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางกำลังอยู่ห่างๆ ขณะที่ชายฉกรรจ์ยังคงยืนอยู่หน้าบ้าน โดยมีอาการคล้ายคนเมาด้วย
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเจรจาและใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถปลดอาวุธ และควบคุมตัวได้ทั้งสองคน แต่ระหว่างนำตัวส่ง สภ.แม่จัน ทั้งคู่ยังพยายามหลบหนีแต่ไปไม่รอดถูกนำตัวไปสอบสวน พร้อมถูกยึดของกลางเป็นอาวุธปืนสั้น ลูกโม่ 9 มม. 1 กระบอก ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.1 กระบอก ปลอกกระสุน 6 ปลอก ปืนพกสั้น .357 ลูกโม่ 1 กระบอก ปลอกกระสุน 6 ปลอก
ตรวจสอบพบว่าทั้งคู่ชื่อ ส.ท.สิลาส เอกานุกุล ทหารสังกัดหน่วยสนับสนุนการรบ ร.17 ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย และ ส.ท.เทียนชัย กริ้วกราย ทหารสังกัดค่ายกาวิระ จ.เชียงใหม่ จึงได้แจ้งนายทหารพระธรรมนูญไปร่วมกันทำการสอบสวน จากนั้น พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย รุดไปตรวจสอบคดีนี้ด้วยตัวเอง พร้อมสอบถามข้อมูลได้ความว่า ส.ท.สิลาส มีปัญหาเรื่องหนี้สินที่ไม่ลงตัวกับนายเสน่ห์ จึงชวน ส.ท.เทียนชัย ไปเจรจาโดยหลังจากนั่งคุยกันแล้งตกลงกันไม่ได้จึงก่อเหตุดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อหาเอาไว้หลายข้อหาคือเมาสุราวุ่นวายในที่ สาธารณะ พกอาวุธไปในเมือง พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นเสียเสรีภาพ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ นายเสน่ห์ ถือเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีความสนิทกับสายพรรคเพื่อไทย ขั้วของนายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองชื่อดังด้วย