จันทบุรี - ช้างป่าหยียบชาวบ้านขณะทำท่อแป๊บเสียชีวิตคาเท้า เพื่อนบ้านหวังช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน เสียชีวิตระหว่างทาง นายกสะตอเร่งป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 7 บ้านโป่งซี ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งพื้นที่ติดกับ ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ขณะที่นายสมใจ เข็มทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว และกำลังทำท่อต่อน้ำเพื่อเข้าสวนผลไม้พร้อมคนงานต่างด้าว 4-5 คน ที่เป็นลูกจ้างอยู่นั้น
ได้มีช้างพลายตัวใหญ่ ความสูงกว่า 3 เมตร เดินเข้ามาบริเวณที่ทุกคนกำลังทำงานอยู่ เมื่อทุกคนเห็นจึงเกิดตกใจ และลุกขึ้นวิ่งหนี โดยนายสมใจ ได้วิ่งเข้าไปในสวนผลไม้ แต่วิ่งได้ระยะประมาณ 30-40 เมตร เกิดหกล้ม ทำให้ช้างที่วิ่งตามมาทำร้ายใช้เท้าเหยียบที่ขาขวาจนหัก จากนั้นก็เหยียบเข้าที่บริเวณหน้าอกจนนายสมใจแน่นิ่งไป ท่ามกลางสายตาของลูกจ้างต่างด้าวที่หลบอยู่บริเวณใกล้เคียง
หลังจากทุกคนคลายความตกใจแล้ว จึงได้ออกมาช่วยเหลือนายสมใจ และช่วยกันขับไล่ช้างออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนรีบนำร่างของนายสมใจส่งโรงพยาบาลขลุง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง ซึ่งแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพพบว่าหน้าอกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงทำให้ซี่โครงหักหลายซี่
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ นายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะตอ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากชาวบ้านว่ามีช้างเหยียบชาวบ้านเสียชีวิตในพื้นที่ ตรงข้ามกับตำบลสะตอ ซึ่งเป็นช้างที่อาศัยอยู่ในบ้านหมู่ 4 ต.สะตอ มานานแล้วตั้งแต่กลางปี 2554 และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ของ ต.ช้างทูน และ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่
ซึ่งทาง อบต.จะเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนเข้ามาร่วมหารือเพื่อหาทางแก้ปัญหาช้างทำร้ายประชาชน เนื่องจากเกรงว่าช้างจะเกิดอาการตื่นกลัว และทำร้ายประชาชนอีก ขณะเดียวกัน ก็จะประสานไปยังญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเพื่อทำความเข้าใจ และทำการช่วยเหลือต่อไป
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 7 บ้านโป่งซี ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งพื้นที่ติดกับ ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ขณะที่นายสมใจ เข็มทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว และกำลังทำท่อต่อน้ำเพื่อเข้าสวนผลไม้พร้อมคนงานต่างด้าว 4-5 คน ที่เป็นลูกจ้างอยู่นั้น
ได้มีช้างพลายตัวใหญ่ ความสูงกว่า 3 เมตร เดินเข้ามาบริเวณที่ทุกคนกำลังทำงานอยู่ เมื่อทุกคนเห็นจึงเกิดตกใจ และลุกขึ้นวิ่งหนี โดยนายสมใจ ได้วิ่งเข้าไปในสวนผลไม้ แต่วิ่งได้ระยะประมาณ 30-40 เมตร เกิดหกล้ม ทำให้ช้างที่วิ่งตามมาทำร้ายใช้เท้าเหยียบที่ขาขวาจนหัก จากนั้นก็เหยียบเข้าที่บริเวณหน้าอกจนนายสมใจแน่นิ่งไป ท่ามกลางสายตาของลูกจ้างต่างด้าวที่หลบอยู่บริเวณใกล้เคียง
หลังจากทุกคนคลายความตกใจแล้ว จึงได้ออกมาช่วยเหลือนายสมใจ และช่วยกันขับไล่ช้างออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนรีบนำร่างของนายสมใจส่งโรงพยาบาลขลุง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง ซึ่งแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพพบว่าหน้าอกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงทำให้ซี่โครงหักหลายซี่
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ นายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะตอ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากชาวบ้านว่ามีช้างเหยียบชาวบ้านเสียชีวิตในพื้นที่ ตรงข้ามกับตำบลสะตอ ซึ่งเป็นช้างที่อาศัยอยู่ในบ้านหมู่ 4 ต.สะตอ มานานแล้วตั้งแต่กลางปี 2554 และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ของ ต.ช้างทูน และ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่
ซึ่งทาง อบต.จะเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนเข้ามาร่วมหารือเพื่อหาทางแก้ปัญหาช้างทำร้ายประชาชน เนื่องจากเกรงว่าช้างจะเกิดอาการตื่นกลัว และทำร้ายประชาชนอีก ขณะเดียวกัน ก็จะประสานไปยังญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเพื่อทำความเข้าใจ และทำการช่วยเหลือต่อไป
