ตร.สภ.หนองแสงรวบอดีตเจ้าอาวาสขายยาบ้า อ้างหาเงินสร้างศาลาการเปรียญ

อุดรธานี-ตร.สภ.หนองแสงรวบอดีตเจ้าอาวาสค้ายาบ้า พร้อมของกลางทั้งยาบ้า-อาวุธปืน-จักรยานยนต์ สารภาพเสพติดยาบ้าขณะอยู่ในสมณเพศ และหันมาเป็นผู้ขายเองเพราะจะได้ไม่ต้องใช้เงินซื้อ ซ้ำอ้างหน้าตาเฉยเป็นหาเงินเพื่อสร้างศาลาการเปรียญช่วยทางวัด

เช้าวันนี้(17ต.ค.) พ.ต.ต.สมศักดิ์ สุทธรัตน์ สว.สส.สภ.หนองแสง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายระวี สุโพธิ์คำ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 41 ม.5 บ.เสาเล้า ต.โคกสีสำราญ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี

พร้อมของกลางยาบ้า 17 เม็ด เงินสด 99,700 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ปืนลูกซองเดี่ยวยาว ทะเบียนเลขที่ กท.2362253 พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 34 นัด ในข้อหาว่ามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เอาไว้โดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร

พ.ต.ต.สมศักดิ์ สุทธรัตน์ สว.สส.สภ.หนองแสง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ในครั้งนี้ อดีตเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านหนองกุงศรี ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี มีพฤติการณ์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแสง ได้ติดตามดูพฤติกรรมมาเป็นเวลานานแล้ว ต่อมาได้หลบหนีออกจากวัด และมาถูกจับกุมตัวได้พร้อมกับยาบ้าดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า นายระวี ได้เข้ามาเป็นคนขายยาบ้าได้ประมาณ 1 ปี เศษในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านหนองกุงศรี ต่อมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ได้หลบหนีออกไปจากวัดโดยที่ไม่มีใครทราบว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งมีชาวบ้านได้ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแสงว่า มีผู้นำเอายาบ้ามาขายให้กับวัยรุ่น และคนทำงานเกษตร ในหมู่บ้านทับไฮ และหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของ อ.หนองแสง และ อ.โนนสะอาด

หลังการออกติดตามจับกุมทราบว่า บริเวณกระท่อมกลางป่าอ้อยบ้านทับไฮ มีชายต้องสงสัยพักอาศัยอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้น พบว่าเป็นคนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัว จึงทำการควบคุมตัว พร้อมกับพบยาบ้า 17 เม็ด ซุกซ่อนอยู่กระเป๋ากางเกง และของกลางอื่นๆ มายัง สภ.หนองแสง

ด้านผู้ต้องหา นายระวี เล่าว่า ตนเองบวชมาเป็นเวลา 15 ปี แล้ว จนได้เป็นเจ้าอาวาส ส่วนเหตุที่หันมาเป็นผู้ขายยาบ้านั้น เป็นเพราะในขณะที่เป็นพระอยู่นั้น เพื่อนๆที่เป็นพระด้วยกันชวนให้เสพจนติด และต้องหาซื้อยาบ้ามาเสพทุกวัน ต้องเสียเงินมากมาย จึงหันมาเป็นคนขาย เพราะไม่ต้องซื้อยาบ้าอีก

นายระวี ยังยอมรับอีกว่าได้ขายยาบ้ามาเป็นเวลา 1 ปีเศษแล้ว การซื้อยาบ้านั้น ใช้วิธีสั่งจากเครือข่ายที่จังหวัดหนองคาย โดยสั่งครั้งละ 2 ถุงๆ ละ 200 เม็ด ในราคาถุงละ 25,000 บาท ส่วนการส่งมอบยาบ้านั้น จะใช้การนัดหมายกันว่าให้ไปรับยาบ้าที่จุดไหน นายระวีจะนำเอาเงินไปวางตามจุดนัดหมาย จากนั้นก็จะมีคนนำยาบ้ามาวางเอาไว้ที่จุดวางเงิน

วิธีการซื้อขายเช่นนี้จึงไม่มีการเห็นหน้าผู้ซื้อ-ผู้ขาย ส่วนปืนลูกซองยาวนั้น มีคนนำมาขอแลกกับยาบ้า 30 เม็ด และสาเหตุที่ขายยาบ้าอีกประเด็นหนึ่ง นอกจากจะไม่ต้องซื้อยาบ้าเสพแล้ว ก็เพื่อหาเงินไปสร้างศาลาการเปรียญวัดอีกทางหนึ่งด้วย