เรือเอกหญิงผวา ถูกอดีตพลทหารคลั่งยาบ้าบุกบ้านใช้มีดไล่ฟัน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - อดีตพลทหารทัพบก เสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่งถือมีดไล่ฟันชาวบ้าน ก่อนปีนรั้วบุกบ้านเรือเอกหญิง ผวาเผ่นหนีตาย ตำรวจตู้ยามเข้าระงับเหตุจนได้รับบาดเจ็บ ขอกำลังเสริมเข้าเกลี้ยกล่อม ก่อนบุกจับกุมตัวลากคอเข้าซังเต

วันนี้ (11 ต.ค.55 ) ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจาก เรือเอกหญิง อุบลรัตน์ เหมือนเอี่ยม อายุ 54 ปี สังกัด กองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ พักบ้านเลขที่ 72 ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่ามีชายคลุ้มคลั่งถืออาวุธมีดไล่ทำร้ายชาวบ้าน ก่อนปีนรั้วบุกเข้าไปภายในบ้านทำลายทรัพย์สิน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ, พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส.กำลังชุดสืบสวน และสายตรวจ รวมเกือบ 10 นาย เข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมีรั้วล้อมรอบ ภายในบ้านพบชายคลุ้มคลั่งในมือถือมีด คล้ายคนเมายาบ้า กำลังอาละวาดทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน โดยมีเจ้าของบ้านและชาวบ้านใกล้เคียง กำลังอยู่ในอาการหวาดผวายืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถบุกเข้าจับกุมได้ เนื่องจากประตูรั้วถูกล็อคจากด้านใน จึงได้เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงยอมจำนนให้จับกุมโดยละม่อม

จากการตรวจค้นในตัวพบบัตรประจำตัวระบุชื่อ พลทหาร อานนท์ วรรณกิจ อายุ 25 ปี สังกัด กองพันทหารม้าที่ 30 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งปลดประจำการเมื่อวันที่ 31 ต.ค.54 ที่ผ่านมา

เมื่อตรวจสอบภายในบ้านพบถูกทำลายได้รับความเสียหายหลายรายการ และพบมีดทำครัวที่ใช้เป็นอาวุธก่อเหตุจำนวน 3 ด้าม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังโรงพัก ล่าสุด ยังไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ตั้งข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และบุกรุกเคหะสถานทำลายทรัพย์สินผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไว้ก่อน

ด้านเรือเอกหญิง อุบลรัตน์ เหมือนเอี่ยม เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ชายคลุ้มคลั่งรายนี้ ได้ปีนรั้วบุกเข้ามาภายในบ้านแล้วก่อนหน้า 1 ครั้ง ในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ โดยเข้ามานอนสลบเหมือนอยู่บนโซฟาภายในบ้าน ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาพบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม แต่ถูกควบคุมตัวไม่นานก็ได้รับการปล่อยตัวและคลุ้มคลั่งหวนกลับมาก่อเหตุใช้มีดวิ่งไล่ทำร้ายชาวบ้าน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามบ้านเตาถ่าน ที่เข้าระงับเหตุก่อนหน้าได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะปีนรั้วเข้าไปหลบซ่อนตัวในบ้านของตน และทำลายทรัพย์สิน โชคดีที่เวลานั้นไม่มีคนอยู่ในบ้าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตกับเหตุการณ์ครั้งนี้