จนท.เร่งสอบสวนโรค หลังชาวบ้านเปิบลาบ-หลู้หมูดิบท้องร่วงระนาว

น่าน - เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ฯ สาธารณสุขจังหวัดน่านลงพื้นที่สอบสวนโรคเก็บชิ้นเนื้อหมูป่าที่เหลือไปตรวจพิสูจน์ หลังชาวบ้านใช้เนื้อหมูป่าทำลาบ-หลู้-แกงอ่อม ฯลฯ ทั้งสุก-ดิบกินจนท้องเสียกันระนาว คาดรู้ผลเชื้อแน่ชัดภายใน 7 วัน เผยเมืองน่านมีบทเรียนแล้วหลายครั้ง และรุนแรงจนถึงขั้นมีคนตาย

รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า นายนพพร มหากันทา ปศุสัตว์จังหวัดน่าน ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บ้านห้วยระพี หมู่ที่ 15 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน เพื่อสอบสวนโรคและเก็บชิ้นเนื้อหมูป่าที่เหลือไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการแพทย์ภาคเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 7 วัน พร้อมกับฉีดยากำจัดพยาธิและวัคซีนป้องกันให้แก่หมูที่เลี้ยงไว้ในหมู่บ้าน หลังมีชาวบ้านในพื้นที่ถูกหามส่งเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการอ่อนเพลีย ท้องร่วง อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ อุจจาระมีสีดำคล้ำ โดยเป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 2 ราย ซึ่งทั้งสองรายแพทย์ได้ให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ

ขณะที่ทีมสาธารณสุขอำเภอเมืองน่านก็ได้ลงพื้นที่เข้าไปทำการตรวจรักษาโรคแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านบ้านห้วยระพี หมู่ที่ 15 ตำบลสะเนียน จำนวนกว่า 30 คน ได้รับประทานอาหารปรุงด้วยเนื้อหมูป่าทั้งดิบ-สุก ซึ่งผู้ป่วยรายหนึ่งกล่าวว่า ได้วางกับดักหมูป่าในไร่ข้าวโพดเหนือหมู่บ้านได้ในตอนเช้า และได้นำมาชำแหละในตอนเย็นของวันที่ 8 ตุลาคม 2555 เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร ทำลาบ หลู้หมูดิบ ปิ้ง ผัดเครื่องใน และแกงอ่อม โดยผู้ป่วยบางรายได้รับประทานทั้งที่ปรุงสุก และปรุงดิบ

เบื้องต้นแพทย์ได้สันนิษฐานว่า ผู้ป่วยเป็นโรคพยาธิทริคริโนซิส ซึ่งพบการระบาดได้บ่อยในพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ก็มีการระบาดในพื้นที่อำเภอปัว มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากการรับประทานหมูดิบหลายราย และเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่อำเภอนาน้อยก็มีผู้เสียชีวิต 25 ราย

ล่าสุดขณะนี้แพทย์ได้ให้การรักษาโดยการให้ยาถ่ายพยาธิไปก่อนเพื่อรอดูอาการ

นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เข้าไปสอบสวนโรคในพื้นที่แล้ว โดยให้ทีมเจ้าหน้าที่ให้ความรู้แก่ผู้ป่วย ตลอดจนชาวบ้านทั่วไปให้ระมัดระวังในการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะให้งดรับประทานของสุกๆ ดิบๆ เพราะจะมีพยาธิและมีเชื้อโรคหลายชนิด พื้นที่จังหวัดน่านมีตัวอย่างแล้วหลายครั้ง โดยพยาธิชนิดนี้จะมีการแตกกระจายตัวในร่างกาย และเข้าสู่กล้ามเนื้อ อวัยวะภายในทั้งหัวใจ ปอด และสมอง ซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้