ศูนย์ข่าวศรีราชา - วัดสัตหีบเปิดงานนมัสการปิดทองหลวงพ่ออี๋ 7 วัน 7 คืน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญ
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ เป็นประธานในพิธีเปิดงานนมัสการปิดทองหลองพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ประจำปี 2555 จำนวน 7 วัน 7 คืน ณ วิหารหลวงพ่ออี๋ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป สวดพระพุทธมนต์ โดยมีนายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกเทศมนตรีตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรส่วนท้องถิ่น ศิษยานุศิษย์ ชมรมผู้สูงอายุ และประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
งานนมัสการปิดทองหลวงพ่ออี๋ของวัดสัตหีบ มีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2555 รวม 7 วัน 7 คืน โดยภายในงานจะเปิดให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญ และปิดทองนมัสการพระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) และยังจัดให้มีมหรสพตลอดงาน อีกทั้งร้านค้ากว่า 200 ร้าน จากทุกภูมิภาคของประเทศ ให้ได้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคกันอย่างจุใจ
สำหรับประวัติโดยย่อของหลวงพ่ออี๋ พระครูวรเวทมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการปฏิบัติสมถะ และวิปัสสนากรรมฐาน ร่นระยะทางได้ จนเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อำเภอสัตหีบเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม และมีฐานทัพเรือ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก แต่หลวงพ่ออี๋ได้ออกมายืนบริกรรมคาถากลางลานวัด
ปรากฏว่าทุกคนที่หนีมาหลบภัยในวัดสัตหีบเป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก ลูกระเบิดที่เครื่องบินทิ้งลงมาได้ไปตกในทะเลหมด และมีคนเห็นว่าปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ได้วิ่งไล่เครื่องบิน และไล่ลูกระเบิด
นอกจากนี้ มีคนเห็นว่า หลวงพ่ออี๋ ไปบิณฑบาตที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ขณะที่นั่งรถประจำทางกลับสัตหีบ ปรากฏว่า เมื่อกลับมาถึงสัตหีบเห็นหลวงพ่ออี๋กลับมาจากบิณฑบาตเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ท่านไม่ได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางคันเดียวกัน
ต่อมา ท่านได้เจ็บป่วยเป็นฝีที่ลำคอ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2489 แต่ท่านไม่ได้สนใจในการรักษา เพราะท่านสามารถระลึกชาติได้ว่า เมื่อชาติที่แล้วท่านได้ยิงกวางถูกที่ลำคอตาย ณ หนองไก่เตี้ย สัตหีบ กรรมจึงได้ตามมาสนอง ต้องการไม่ให้ผลกรรมติดตามไปในชาติอื่นๆ ให้จบสิ้นกันในชาตินี้ จนวันที่ 20 กันยายน 2489 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 เวลา 20.35 น.เป็นคืนแห่งการมรณภาพอย่างสมบูรณ์ของหลวงพ่ออี๋ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ ได้ 81 ปี ปัจจุบัน พระครูวิบูลธรรมบาล (อาจารย์เหล็ง) ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส