หนองคาย-อบจ.หนองคาย จับมือท้องถิ่น 5 แห่งจัดแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 24-25 ต.ค. มีทีมเรือดังทั้งไทยและลาวเข้าร่วมชิงชัยคับคั่ง
วันนี้ (8 ต.ค.55) ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นำคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ , องค์การบริหารตำบลพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ , เทศบาลตำบลปะโค อ.เมืองหนองคาย และเทศบาลตำบลหาดคำ แถลงข่าวจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณี อบจ.หนองคาย ครั้งที่ 7 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกอบจ.หนองคาย กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันเรือยาวประเพณี ประจำปี 2555 ประเภทเรือยาว 55 ฝีพาย รุ่นทั่วไปไทย-ลาว โดยเป็นปีแรกที่จังหวัดหนองคายได้รับถ้วยพระราชทาน และเป็นแห่งเดียวในภาคอีสานเช่นกัน ซึ่งอบจ.หนองคาย ได้จัดการแข่งขันเรือยาวปีนี้เป็นปีที่ 7 ทุกปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี
การแข่งขันเรือยาวปีนี้ อบจ.หนองคาย จะทำการแข่งขัน ณ แม่น้ำโขง บริเวณตลาดอินโดจีน อ.เมืองหนองคาย ระหว่างวันที่ 24-25 ต.ค.2555 แบ่งเป็นการแข่งขันเรือทั่วไปไทย-ลาว ไม่เกิน 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท
ขณะนี้มีทีมเรือจากทั่วประเทศและทีมเรือจากประเทศลาว รวม 18 ลำ แจ้งความประสงค์เข้าร่วมแข่งขัน และประเภทเรือภายในจังหวัดหนองคาย ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท ซึ่งมีทีมเรือในจังหวัดหนองคาย จะลงแข่งขัน 12 ลำ
นอกจากนี้ การแข่งขันเรือยาวประเภททั่วไป 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีด้วยกัน 3 แห่ง คือ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จัดแข่งขันวันที่ 20 ต.ค.2555 , เทศบาลตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จัดแข่งขันวันที่ 21 ต.ค.2555 และเทศบาลตำบลปะโค จัดแข่งขันวันที่ 22 ต.ค.2555 ส่วนเทศบาลตำบลหาดคำ จัดการแข่งขันชิงถ้วยเกียรติยศ ในวันที่ 23 ต.ค.2555
การแข่งขันเรือยาวทั้งหมดนี้ ต้องการให้จังหวัดหนองคายเป็นสนามแข่งขันเรือยาวที่ใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดหนองคายให้คึกคักตลอดช่วงการจัดงาน ซึ่งในปีถัดไปจะมีการประสานกับท้องถิ่นอีกหลายแห่งร่วมกันจัดงานให้เป็นสัปดาห์แห่งการชิงชัยจ้าวแห่งลุ่มน้ำโขงอย่างยิ่งใหญ่