ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษคาดพายุ “แกมี” ไม่กระทบมาก สั่งทุกหน่วยเตรียมรับมือเต็มที่

ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษคาดพายุ “แกมี” ไม่ส่งผลกระทบต่อ จ.ศรีสะเกษมากนัก แต่ส่งผลดีทำให้ไร่นาที่แห้งแล้ง และมีน้ำมาหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตร เผยไม่ประมาทสั่งนายอำเภอ ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องงดหยุดราชการเสาร์-อาทิตย์ เฝ้าระวังเหตุการณ์เตรียมรับมือพายุแกมีถล่มเต็มที่ ระบุมีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก 2 อำเภอ 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน

วันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดศรีสะเกษ ได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด อีก 9 จังหวัด เพื่อหาแนวทางป้องกันและรับมือกับพายุโซนร้อนแกมีที่กำลังจะพัดผ่านเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เส้นทางบริเวณที่พายุพัดผ่านเกิดลมแรง และมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในขณะนี้จากการรับทราบข้อมูลเบื้องต้นในภาพรวมของ จ.ศรีสะเกษ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนแกมีมากนัก ซึ่งตนได้สั่งกำชับไปยังนายอำเภอทุกอำเภอ ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์พายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวศรีสะเกษให้น้อยที่สุด

“การที่พายุโซนร้อนแกมีพัดผ่านจังหวัดศรีสะเกษ  อาจจะเป็นผลดีด้วยซ้ำ เนื่องจากในขณะนี้ มีหลายพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษที่ยังขาดแคลนน้ำ พายุแกมีจะช่วยให้พืชผลไร่นาทางการเกษตรของเกษตรกรมีน้ำมาหล่อเลี้ยง ทำให้พืชผลเจริญเติบโตเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวศรีสะเกษอีกด้วย” นายประทีป กล่าว

นายประทีป กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้เรียกประชุมด่วนนายอำเภอ ทั้ง 22 อำเภอ รวมทั้งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุแกมี

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะพัดผ่านเข้าสู่จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2555 นี้ โดยได้สั่งกำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอติดตามเฝ้าระวังเหตุการณ์ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือในการงดหยุดราชการในวันเสาร์ และอาทิตย์นี้ เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที หากว่ามีการเกิดอุทกภัยขึ้นในพื้นที่ทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ ให้นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ให้พร้อมเผชิญหน้ากับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อจากอิทธิพลของพายุแกมีดังกล่าว

ในเบื้องต้น จะมีเขตพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากประกอบด้วย 2 อำเภอ 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน คือ อ.ขุนหาญ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านน้ำตกห้วยจันทร์ ต.ห้วยจันทร์ และ อ.ภูสิงห์ 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเขาแดง ต.โคกตาล บ้านกลาง ต.ดงรัก บ้านคูสี่แจ ต.ดงรัก บ้านแซร์สะโบว์ ต.ดงรัก บ้านแซร์ไปรใต้ ต.ไพรพัฒนา บ้านโอว์ปังโกว์ ต.ไพรพัฒนา

นายไพฑูรย์ ไชยภูมิสกุล ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำของ จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 16 แห่ง พบว่ามีปริมาณน้ำวัดได้รวม 167.399 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 81.1% ของความจุอ่างมี 206.471 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 5.1 เปอร์เซ็นต์

ด้านนายสุขสันต์ บุญแสงโท หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษตระหนักในความปลอดภัยของประชาชนชาวศรีสะเกษ โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงมีคำสั่งให้ส่งข้อมูลข่าวสาร ประสานไปยังอำเภอทุกอำเภอ เพื่อกระจายข่าวสารข้อมูลผ่านวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้การกระจายข่าวสารข้อมูลไปยังประชาชนได้อย่างทั่วถึงทุกท้องที่ เพื่อรับรู้สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของพายุแกมีลูกนี้อย่างทันท่วงที และเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนชาวศรีสะเกษอีกทางหนึ่งด้วย