ลำปาง/พะเยา - หน่วยรบพิเศษ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทลายไร่กัญชากลางป่าสงวนฯ เมืองลำปาง ขณะที่ ตชด.32 ลุยตัดไร่กัญชากลางอุทยานแห่งชาติดอยหลวง พบ “เย้า” ลอบปลูกแซมในป่าข้าวโพด จำนวน 3 แปลง รวม 16,000 ต้น แถลงเปิดกระท่อมกลางป่ารับลูกค้าเสพยาบ้าอีก
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า พ.ต.ประวิธ ธรรมชาติ ผบ.ร้อย.ฝรพ.3, ร.อ.เศรษฐดุษิต บางศรี นายทหารฝ่ายการข่าว ฝรพ.2, ร.ท.สรวิทย์ ชัยวงศ์ รอง ผบ.ร้อย.ฝรพ.3 พร้อมด้วยกำลังทหารหน่วยรบพิเศษ ได้นำต้นกัญชาดิบ อายุมากกว่า 1 ปี สูงประมาณ 3-4 เมตร กว่า 50 ต้น ที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวแล้วมาแถลงข่าว ก่อนที่จะนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินการตามกฎหมาย
กองกำลังทหารหน่วยรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ผสานกำลังกว่า 10 นายร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่การบุกรุกแผ้วถางป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่เมาะ พิกัด GPS ที่ 811595 บ้านแม่ส้าน หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่กลางป่าลึกห่างจากถนนสายหลักกว่า 30 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 55 ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากการข่าวว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อปลูกข้าวและพืชไร่ อีกทั้งยังมีการปลูกยาเสพติดอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงป่าท้ายหมู่บ้านพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้าง มีการปลูกข้าวไร่กระจายกันไปทั่ว และได้สังเกตเห็นต้นกัญชาปลูกแซมตามไร่ข้าวดังกล่าวพื้นที่มากกว่า 3 ไร่ แต่ละต้นพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว โดยมีความสูงมากกว่า 3 เมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดทำลายและเก็บบางส่วนเพื่อจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นในป่าสงวนลำปางครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การเดินทางเข้าออกลำบากมาก มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากต้องเดินเท้าเข้าไปได้เพียงวิธีเดียว จึงทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางรวมระยะเวลากว่า 10 ชั่วโมง จึงสามารถเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่นทั้งหมด และนำของกลางเพียงบางส่วนออกมาเพื่อดำเนินคดี
ส่วนที่พะเยา หลัง พ.ต.อ.ไพโรจน์ ริมประโคน ผกก.ตชด.32 พะเยา สืบทราบว่ามีการลักลอบปลูกพืชเสพติดในป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ จ.พะเยา จ.เชียงราย และ จ.ลำปาง จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.นรนีร พุ่มเจริญ รอง ผกก.ตชด.ที่ 32 นำกำลังออกลาดตระเวนบริเวณรอยต่อ อ.แม่ใจ จ.พะเยา กับ อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 55 ที่ผ่านมา
ต่อมาพบกัญชาลักลอบปลูกแซมในไร่ข้าวโพดบริเวณเชิงเขา จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมกระท่อมกลางไร่ข้าวโพด พบนายเลาเซน แซ่เติ๋น อายุ 54 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 6 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมกันนี้ได้ตรวจค้นภายในกระท่อมพบยาบ้าในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 143 เม็ด
นายเลาเซนรับสารภาพว่า มีคนนำมาให้ตนขายให้วัยรุ่นใน อ.พาน และ อ.แม่ใจ ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์วิบากขึ้นมาซื้อเสพในกระท่อม
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอุปกรณ์การเสพยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และยังพบฝิ่นดิบห่อในพลาสติกจำนวน 3 ห่อ น้ำหนัก 43 กรัม ปืนยาวไม่มีทะเบียน 1 กระบอก ต้นกัญชาตากแห้งพร้อมเมล็ดบนสังกะสีจำนวน 5 กิโลกรัม
ต่อมา พ.ต.ท.นรนีรได้ประสานนายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยหลวง นำจีพีเอสมาสำรวจพื้นที่ พบว่าเป็นเขตบ้านป่าลันเก่า บ้านบริวารของบ้านปางก่อทราย หมู่ 6 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย จึงประสาน พ.ต.ท.สุวรรณ เข็มวงศ์ รอง ผกก.(ป.) สภ.พาน นำกำลังมาร่วมจับกุม ร่วมกันถอนทำลายต้นกัญชารวม 3 แปลง เนื้อที่ 1 ไร่เศษ รวม 16,000 ต้น พร้อมแจ้งข้อหานายเลาเวน แซ่เติ๋น มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและเสพ มีโรงงานผลิตยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้จำหน่าย และมีฝิ่นดิบไว้เสพ มีอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตไว้ในความครอบครอง และบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พาน ดำเนินคดีต่อไป