พิจิตร -ที่ลุ่มริมน้ำยม-น่านจมใต้น้ำมานานกว่า 20 วันแล้ว ทำเดือดร้อนหนัก สัญจรไป-มาลำบาก ผู้ป่วยขาดช่วงการรักษากันระนาว บางรายเจอปัญหาขนข้าวส่งโรงสีเข้าโครงการจำนำฯ มานานกว่า 3 เดือนยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ขณะที่จังหวัดฯ ประกาศ 9 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติอุทกภัย
วันนี้ (3 ต.ค.) นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และนายศราวุธ ไทยเจริญ นายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และว่าที่ ร.ต.ยุทธศักดิ์ อาจองค์ ผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 35 จ.พิจิตร ได้ใช้เรือท้องแบนล่องไปตามแม่น้ำยมเพื่อนำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นรวมถึงยารักษาโรคไปแจกจ่ายราษฎรที่มีบ้านเรือนอยู่ที่ลุ่มริมแม่น้ำยม
โดยเฉพาะบริเวณหมู่ 8 บ้านย่านยาว ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง ซึ่งถูกน้ำยมท่วมมานานกว่า 20 วันแล้ว ถนนหนทางภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมต้องใช้เรือพาย-เรือหางยาว เป็นพาหนะในการติดต่อกับโลกภายนอกเท่านั้น
ที่เดือดร้อนหนักที่สุดคือ คนแก่ คนพิการ คนป่วย ที่ต้องมาพบหมอเป็นประจำเพื่อขอรับยาอย่างต่อเนื่อง หรือต้องได้รับการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ทางราชการจึงต้องส่งทีม อสม.และเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.ประจำหมู่บ้านนั่งเรือท้องแบนเข้าไปบริการถึงหัวบันไดบ้าน ซึ่งถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ฎรที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนดังกล่าว
นางชม้อย ยังเอี่ยม อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 8 บ้านย่านยาว ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งบ้านถูกน้ำท่วมได้ให้สัมภาษณ์ว่า น้ำได้ท่วมบ้านมานานกว่า 20 วันแล้ว ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพทำไร่ ทำนาได้
ส่วนที่เคยออกไปทอดแหหาปลานำมาทำปลาร้า ปลาเค็ม ปลาย่าง หารายได้เสริมนั้น ขณะนี้ก็ทำได้ลำบากเนื่องจากปีนี้มีปลาน้อยมาก อีกทั้งมีพวกใช้อุปกรณ์ผิดกฎหมายมาช็อตปลาในช่วงกลางคืนด้วย ทำให้สัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อย แม้แต่ปลาไหล ที่อยู่ในรูใต้ดินก็ยังตาย ดังนั้นช่วงนี้จึงมีความเครียดมาก
ที่เครียดมากที่สุดคือ เอาข้าวเปลือกจำนวน 10 ตันคิดเป็นเงินเกือบ 1 แสนบาทไปส่งมอบโรงสีเพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวมานานกว่า 3 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินเสียที เจ้าหนี้ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงก็มาทวงทุกวัน จึงทำให้มีความทุกข์แบบทวีคูณ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินที่จำนำข้าวให้ชาวนาเป็นการด่วน ส่วนเรื่องน้ำท่วมบ้านก็เป็นแบบนี้มาทุกปีจึงพอรับได้
นายสุริยันต์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่พิจิตร เกิดจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคกลาง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนือง ประกอบกับมีน้ำจากสุโขทัยและพิษณุโลกไหลเข้ามาในแม่น้ำยมเขต จ.พิจิตร จึงทำให้น้ำยม เอ่อล้นตลิ่ง แต่ถ้าเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่าระดับน้ำยังน้อยมาก และน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 2 เมตร จึงทำให้ชาวบ้านที่มีประสบการณ์ยังพอรับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ได้
ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำน่านที่เกิดน้ำท่วมในที่ลุ่มก็เกิดจากการระบายน้ำจากแม่น้ำยมที่คลองในหลวง หรือคลอง DR 2.8 ลงสู่แม่น้ำน่านอย่างต่อเนื่องวันละ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งลำคลองสาขาต่างๆ รับน้ำมาจากเทือกเขาวังทอง และเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลบ่าลงมาสมทบเวลามีฝนตก ส่งผลให้ระดับน้ำในนแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านอำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนากเพิ่มขึ้น ชาวบ้าน และพื้นที่การเกษตรก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ล่าสุดจังหวัดพิจิตรจึงได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยเพิ่มอีก 2 อำเภอ
สรุปแล้วสถานการณ์ของจังหวัดพิจิตร ณ วันนี้มีพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย รวม 9 อำเภอ 26 ตำบล 159 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,000 ครัวเรือน ถนนลูกรังพัง 36 สาย สะพานพัง 1 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 4,870 ไร่ จังหวัดฯ ได้อนุมัติเงินทดรองราชการอำเภอละ 1 ล้านบาทเร่งช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแล้ว