จับแล้วมือเผาโรงเรียนนาหว้านครพนม ที่แท้หนุ่มโรคจิตเพิ่งพ้นโทษคดีเผาโรงเรียน

นครพนม - ตำรวจ สภ.นาหว้า จังหวัดนครพนม รวบแล้วมือเผาโรงเรียนชุมชนนางัว เผยเพิ่งพ้นโทษก่อเหตุเผาโรงเรียนเมื่อปี 51 ป่วยเป็นโรคจิตชอบเผาโรงเรียน

วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุไฟไหม้อาคารไม้โรงเรียนชุมชนบ้านนางัว ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) และมีชาวบ้านพบเห็นมีคนลอบวางเพลิง

ล่าสุด พ.ต.ท.วิเวก กองศิริ สารวัตรสืบสวน สภ.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้นำกำลังชุดสืบสวนออกสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดที่ทำการวางเพลิงอาคารเรียนได้ คือ นายคอง วะชุม อายุ 33 ปี ชาวบ้านนางัว หมู่ 1 ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม พร้อมของกลางถุงมือเปื้อนน้ำมันและผ้าชุบน้ำมัน หลบหนีไปอยู่ในบ้านพักในหมู่บ้านก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวมาสอบสวน แต่ผู้ต้องหาไม่ขอให้การ และยากต่อการสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้มีอาการทางประสาท

เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายคอง วะชุม อายุ 33 ปี ชาวบ้านนางัว ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม ผู้ก่อเหตุเคยเป็นผู้ต้องหาในคดีวางเพลิงอาคารเรียนในพื้นที่อำเภอนาหว้ามาก่อนเมื่อประมาณปี 2551 จนกระทั่งศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ก่อนพ้นโทษมาเมื่อประมาณปี 2554

จนกระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของข้อมูลการเกิดเหตุเผาโรงเรียนในพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม พบว่าตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันมีเหตุเพลิงไหม้รวม 7 แห่ง ล่าสุดรวมเป็นแห่งที่ 8 แต่ยังไม่สามารถตรวจหาสาเหตุได้

ขณะเดียวกัน ทางด้าน พ.ต.อ.นคร เกษมสุข รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐานประกอบการดำเนินคดี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าจะมีหลักฐานสามารถจะเอาผิดผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน

ด้านนายวัชร์โรจน์ ไชยพิเดช รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครพนม เขต 2 กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุได้ประสานงานกับตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งจากการสอบถามครู และชาวบ้านใกล้เคียงผู้เห็นเหตุการณ์ จนสามารถพบเบาะแสติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ ส่วนรายละเอียดจะได้สอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

แต่ปัญหาความขัดแย้งในชุมชนหรือภายในโรงเรียนที่จะเป็นสาเหตุไม่มีแน่นอน นอกจากนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะได้หาทางช่วยเหลือในเรื่องของสถานที่การเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนหนังสือได้ เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย ซึ่งจะได้หาทางช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป พร้อมได้กำชับให้โรงเรียนในสังกัดทุกแห่งมีการตรวจสอบ อยู่เวรยามตลอด 24 ชั่วโมง