ลำปาง-สถาบันคชบาล (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) ลำปาง เร่งให้การช่วยเหลือพังน้ำหวานที่เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ หลังคลอดออกมาแล้วแม่ช้างตายทันที เหตุพังน้ำหวานเริ่มอ่อนแอลงและท้องเสียเหตุไม่ได้กินนมช้างด้วยกัน
บ่ายวันนี้ (28 ก.ย.) สถาบันคชบาลแห่งชาติ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) เร่งให้การช่วยเหลือพังน้ำหวาน ลูกช้างเพศเมีย ซึ่งมีอายุได้ 3 วัน น้ำหนักตัวประมาณ 100 กิโลกรัม หลังจากนายบุญมี ยศวิชัย นำพังน้ำหวานใส่รถบรรทุกเดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อให้สถาบันคชบาลแห่งชาติ หาแม่รับ (แม่เลี้ยง) ให้กับพังน้ำหวาน หลัง แม่ของพังน้ำหวาน คือพังบัวลอย อายุ 17 ปี ล้มหลังคลอดพังน้ำหวาน แม้จะเคยคลอดลูกมา 2 ครั้งแล้วก็ตาม
สำหรับพังน้ำหวานเป็นลูกตัวที่ 3 คลอดเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา พังบัวลอยคลอดพังน้ำหวานออกมาแล้วล้มทันที นายบุญมีจึงนำนมวัวมาให้พังน้ำหวานดื่มกินประทังชีวิตแทนนมของแม่ช้างที่ล้มไป แต่พังน้ำหวานท้องเสียและมีอาการทรุดลงเนื่องจากลูกช้างขาดนมแม่ และที่ปากและสะดือมีบาดแผลฉีกขาดจึงทำให้ช้างซึมลง
นายนิปกรณ์ สิงหพุทธางกูร ผอ.สถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง และนายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกูล หัวหน้าฝ่าย โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ได้นำพังน้ำหวานเข้าไปอยู่กับพังพุ่มพวง ซึ่งเคยเป็นแม่รับให้ ช่วยรับเป็นแม่รับให้กับพังน้ำหวานด้วย
เบื้องต้นพบว่า พังพุ่มพวงได้ให้พังน้ำหวานดูดนมและคอยดูแลพังน้ำหวานโดยไม่ทำร้าย ซึ่งถ้าพังพุ่มพวงรับเป็นแม่รับให้กับพังน้ำหวานก็น่าจะทำให้พังน้ำหวานมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะลูกช้างแรกเกิดจะต้องดื่มน้ำนมจากแม่ช้างหรือช้างด้วยกันเท่านั้น ส่วนพลายบุญหลงซึ่งเป็นลูกของพังพุ่มพวง มีอาการหวงพังพุ่มพวงบ้างแต่ก็ไม่ทำร้ายพังน้ำหวานแต่อย่างใด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ชงนมเพื่อนำมาเสริมให้กับลูกช้างทั้งสองด้วยเนื่องจากพังพุ่มพวงมีน้ำนมไม่เพียงพอสำหรับลูกช้างถึงสองตัว
สำหรับพังน้ำหวานต้องอยู่ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติจนกว่าจะหย่านม ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 ปี สำหรับลูกช้างถึงจะยังไม่หย่านม แต่ถ้านายบุญมีต้องการนำพังน้ำหวานกลับก่อนกำหนดก็ทำได้แต่อาจจะทำให้พังน้ำหวานมีอันตรายได้ เพราะช้างเองต้องกินนมช้างด้วยกันเท่านั้นร่างกายถึงจะสมบูรณ์แข็งแรงและปลอดภัยมีภูมิคุ้มกันโรคในอนาคต
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้สื่อข่าวไปดู พลายถ่าง อายุประมาณ 15-20 ปี หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำออกมาป่าเขาอ่างฤๅไน มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรักษาพยาธิในเม็ดเลือดจากติดเชื้อจากสัตว์ในชุมชน เนื่องจากออกจากป่าลงมาหากิน และขณะนี้อาการหายเป็นปกติแล้ว แต่เกิดเป็นฝีที่สะโพกและมีอาการซึมไม่ค่อยกินอาหาร ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์คงต้องให้การรักษาและให้อาหารเสริมจนกว่าร่างกายจะแข็งแรงขึ้น และฝีที่สะโพกจะหายเป็นปกติน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จากนั้นถ้าหายดีแล้วก็จะคืนให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งพลายถ่างกลับป่าเขาอ่างฤๅไนอีกครั้ง