จับอีกแล้ว แท็กซี่เมืองขอนแก่นไม่ยอมกดมิเตอร์

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่นจับไม่เลิกแท็กซี่เอาเปรียบผู้โดยสาร ขอค่าโดยสารเหมาจ่ายไม่กดมิเตอร์ ล่าสุดตั้งด่านตรวจหน้าศูนย์คอมเพล็กซ์ ม.ขอนแก่น พบแท็กซี่ 3 คันจากบริษัทเดียวกันยังดื้อด้าน เตรียมถอนใบอนุญาตขับขี่จากกรมการขนส่งทางบก ยันจะกวดขันต่อเนื่องพร้อมประชุมร่วมผู้ประกอบการแท็กซี่ให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีรับเปิดเสรีประชาคมอาเซียน

วันนี้ (27ก.ย.) พ.ต.อ.อรรณพ รัตนะอุบล ผกก.3 บก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง นำกำลังตำรวจทางหลวงและตำรวจท่องเที่ยวทำการตั้งด่านตรวจบริเวณด้านหน้าศูนย์อาหารและบริการภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ริมถนนมิตรภาพ เพื่อตรวจจับรถแท็กซี่ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และตลอดแนวถนนมิตรภาพ

หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการว่ารถแท็กซี่ในเขต จ.ขอนแก่นยังคงไม่กดมิเตอร์ และเรียกค่าโดยสารสูงเกินจริงจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ขัดต่อกฎหมายและคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้ประกาศบังคับใช้อย่างจริงจังมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ

จากการตรวจสอบพบว่า รถแท็กซี่จำนวน 3 คันไม่ยอมกดมิเตอร์ ประกอบด้วย หมายเลขทะเบียน ทข-76 ขอนแก่น, ทข-116 ขอนแก่น, และ ทข-80 ขอนแก่น ของ หจก.แท๊กซี่อุดรกรุ๊ป สาขาขอนแก่น จึงได้ควบคุมคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 3 ประกอบด้วยนายสอนจิต เกิดกล้า อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255/9 ม.15 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายอเนก โสมกลาง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.1 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น

และนายคมกริช เติมภักดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/8 ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาทำการสอบสวนในข้อหาไม่กดมิเตอร์ โดยปรับคนละ 1,000 บาท พร้อมทั้งทำบันทึกประวัติเพื่อเตรียมเสนอขอถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถ และใบขับขี่จากพนักงานขนส่งจังหวัดต่อไป

พ.ต.อ.อรรณพ รัตนะอุบล ผกก.3 บก.ทท. กล่าวว่า การดำเนินการกวดขันจับกุมแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์นั้นเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพราะยังคงมีการร้องเรียนมายังตำรวจท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แม้จะมีการแจ้งเตือนและขอความร่วมมือไปแล้วก็ตาม จากการตรวจสอบการกระทำผิดพบว่า ส่วนใหญ่ยังคงไม่กดมิเตอร์และเรียกรับค่าบริการแบบเหมาจ่ายโดยอ้างเหตุผลที่แตกต่างกันไป

ทั้งนี้ ผลการตรวจจับที่ผ่านมาพบว่าหลายบริษัทเริ่มปฏิบัติตามกฎหมายบ้างแล้ว โดยตำรวจท่องเที่ยวจะยังคงออกตรวจและกวดขันจับกุม รวมทั้งเตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการรวมถึงภาคเอกชนเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันของการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงด้วยเช่นกัน