บุรีรัมย์ - วัยรุ่นบุรีรัมย์ ซวยขับ จยย.กลับจากเที่ยวสถานบันเทิง แวะเติมน้ำมันเกิดเขม่นกับกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ก่อนชักปืนยิงคู่อริ แต่กระสุนลั่นใส่เพื่อนตัวเองดับคาปั๊มน้ำมัน ตกใจกลัวจึงขับ จยย.หลบหนี แต่ไม่รอดถูก ตร.ตามรวบได้คาบ้านพร้อมคุมตัวทำแผน
วันนี้ ( 19 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.วิศิษฏ์ บัวสง่าวงศ์ รอง ผผก.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ , พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดาทวี สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ควบคุม นายสมภาร แป้นแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.12 ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ นายนิล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสายบุรีรัมย์ - นางรอง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์
หลังทั้งสองได้ร่วมกับพวกวัยรุ่นตำบลเดียวกันรวม 9 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 01.00 น. (18 ก.ย.) มุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ ต. ลุมปุ๊ก ระหว่างทาง ได้พากันแวะเติมน้ำมันซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ต่อมาได้มีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริประมาณ 15 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 10 คัน เข้ามาภายในปั๊ม แล้วเกิดเขม่นมีปากเสียงขว้างปาขวดและสิ่งของใส่กัน
จากนั้น นายสมภาร และนายนิล จึงได้ชักอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ที่พกติดตัวมาคนละกระบอก ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นคู่อริคนละ 1 นัด แต่กระสุนปืนของ นายนิล เกิดพลาดลั่นใส่ นายอภิสิทธิ์ อุกรรัมย์ เพื่อนของตัวเอง เข้าบริเวณกลางหลัง 1 นัด เป็นเหตุให้ นายอภิสิทธิ์ เสียชีวิตคาที่ภายในปั๊มน้ำมัน ด้วยความตกใจ นายนิล และนายสมภาร จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปบอกญาติของนายอภิสิทธิ์ ผู้ตาย ก่อนจะพากันขับหลบหนีไป
แต่สุดท้ายไม่รอดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบข้อเท็จจริง ว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกคู่กรณียิง แต่ถูกกระสุนปืนของเพื่อนกลุ่มเดียวกันลั่นใส่ จึงได้ติดตามจับกุมตัวนายนิล และนายสมภาร ได้ขณะหลบซ่อนตัวที่บ้าน
จากการสอบสวนทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคู่อริจริง แต่กระสุนเกิดพลาดลั่นใส่นายอภิสิทธิ์จนเสียชีวิตดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้นำตัวทั้งสองส่งให้ พ.ต.ต.วรกร ชาไธสง สารวัตรเวรฯ สภ.เมือง ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรหรือมีความจำเป็นเร่งด่วน”
ด้าน พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนยังทราบว่าอาวุธปืนที่ทั้งสองใช้ก่อเหตุ ซื้อมาจากเพื่อนที่กรุงเทพมหานคร ในราคากระบอกละ 2,500 บาท ซึ่งกรณีดังกล่าวก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจค้น และระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นลักลอบนำอาวุธปืนมาใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งอาจสร้างความสูญเสียแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกด้วย
