พิจิตร - แม่น้ำยมช่วงที่ไหลผ่าน “สามง่าม เมืองชาละวัน” ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนชาวบ้านกว่าพันหลังคาเรือน-ทุ่งนาร่วม 2 หมื่นไร่ จนต้องประกาศเขตภัยพิบัติเป็นอำเภอที่ 4 แล้ว โชคดีชาวบ้านเกี่ยวข้าวหนีน้ำไปก่อน ทำให้เกิดความเสียหายไม่มากนัก
วันนี้ (19 ก.ย.) นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายวิเชียร อนุศาสนนันท์ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำยม ว่าน้ำยมได้เอ่อล้นตลิ่ง ประกอบกับมีน้ำไหลหลากมาจากภาคเหนือไหลเข้าท่วม 3 หมู่บ้านของ ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1 พันหลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งล้วนเป็นบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำยม ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะในการเดินทาง
นอกจากนี้น้ำยังได้เอ่อล้นเข้าทุ่งนาร่วม 2 หมื่นไร่ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำไปก่อนหน้านี้แล้ว เกษตรกรจึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ล่าสุด นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้ อ.สามง่าม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว เป็นอำเภอที่ 4 ของ จ.พิจิตร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำน่าน เขต อ.เมือง พิจิตร ยังคงอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 4-5 เมตร แต่ใน อ.บางมูลนาก ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเพียงแค่ 1 เมตรเศษ สิ่งที่ชาวบ้านวิตกกังวลคือหากมีฝนตกหรือมีพายุเข้ามาในช่วงนี้ ฝนที่ตกลงมาน้ำในท้องทุ่งนาจะไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตลาดและชุมชน แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในสภาวะปกติ เพียงแต่ชาวบ้านก็มีการเตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงแล้ว