xs
xsm
sm
md
lg

ภาค 5 ยึดรถ 10 คันต้องสงสัย พบซื้อซากรถก่อนดัดแปลง-สวมทะเบียนหลอกขายเต็นท์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 ตรวจยึดรถ 10 คันในพื้นที่รับผิดชอบ หลังส่อแววกระทำผิดกฎหมาย พบทั้งหมดถูกสวมทะเบียน-ดัดแปลงรถก่อนนำไปขายให้เต็นท์รถมือสอง เผยขบวนการตระเวนซื้อซากรถจากบริษัทประกัน ก่อนนำไปสวมทะเบียนกับรถหนีไฟแนนซ์-ถูกขโมยพร้อมดัดแปลงตัวถัง-เครื่องยนต์จนได้เป็นรถคันใหม่ เตือนประชาชนจะซื้อรถมือสองต้องตรวจประวัติให้ละเอียด

วันนี้ (18 ก.ย. 2555) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.กริช กิติลือ รองผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย อยู่มาก ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวการสรุปผลการสืบสวนขยายผลการตรวจสอบรถต้องสงสัยที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ของชุดปฏิบัติการปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ละรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 5

การตรวจสอบรถต้องสงสัยดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย หลังจากพบว่าอาจมีการกระทำผิดกฎหมาย ด้วยการนำรถที่ได้มาโดยผิดกฎหมายมาสวมทะเบียนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุและชำรุดเสียหาย หรืออยู่ในสภาพที่ไม่อาจซ่อมแซมได้

จากการตรวจสอบพบรถยนต์ที่เข้าข่ายการประทำผิดในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 รวม 10 คัน ประกอบด้วย 1. รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 9567 พะเยา ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน บพ 7517 เพชรบูรณ์ ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์มายเลขทะเบียน ถฎ 1754 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถที่ผิดสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน

2. รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผจ 7112 เชียงใหม่ ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน ผจ 7112 เชียงใหม่ ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บฉ 8907 กระบี่ ซึ่งเป็นรถที่ผิดสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน

3. รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ถย 6492 กรุงเทพฯ ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน บบ 1072 ฉะเชิงเทรา มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ถย 6492 ซึ่งแจ้งหายไว้ที่ สภ.ฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2552

4. รถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน ตน 2496 กรุงเทพฯ ซึ่งนำตัวถังและเครื่องยนต์จากรถหมายเลข บร 8500 ระยอง มาสวมกับรถยนต์หมายเลข ตน 2496 กรุงเทพฯ ซึ่งแจ้งหายไว้ที่ สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง

5. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บน 2618 ลำพูน ซึ่งนำตัวถังและเครื่องยนต์จากรถหมายเลข บห 2431 ชลบุรี ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ฌจ 9845 กรุงเทพฯ ซึ่งแจ้งหายไว้ที่ สน.ท่าข้าม กรุงเทพฯ

6. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผท 4507 เชียงใหม่ ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน บท 2719 ภูเก็ต ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บท 2656 ตรัง ซึ่งแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

7. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผท 2865 เชียงใหม่ ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน บม 7893 นครศรีธรรมราช ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 493 ชุมพร ซึ่งเป็นรถที่ผิดสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน

8. รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผย 8015 เชียงราย ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน ปน 252 กรุงเทพฯ ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ณน 5963 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถที่ผิดสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน

9. รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 3 สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ 3910 เชียงใหม่ ซึ่งนำตัวถังรถและเครื่องยนต์จากรถหมายเลขทะเบียน กบ 9693 นครราชสีมา ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ มาสวมกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ญข 7936 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถที่ผิดสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงิน และ

10. รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ฎว 5771 กรุงเทพฯ ซึ่งนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร

พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.สส.ภ.5 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวมีพฤติการณ์คือ จะซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือซ่อมแล้วไม่คุ้มค่าซ่อม และเป็นรถรุ่นเดียวกันกับรถที่ขบวนการมีอยู่ จากบริษัทประกันภัยที่นำซากรถมาขายทอดตลาด ต่อจากนั้นจะนำซากรถดังกล่าวมาสวมทะเบียนกับรถที่ขบวนการมีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ถูกโจรกรรม หรือหลบหนีการชำระเงินตามสัญญาเช่าซื้อ พร้อมทั้งดัดแปลงตัวถังและเครื่องยนต์ แล้วจึงนำไปจำหน่ายให้กับร้านขายรถยนต์มือสองต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ขบวนการที่ลงมือในลักษณะดังกล่าวพบว่ามีเครือข่ายกระจายอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตรวจกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามว่า มีบุคคลใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ซื้อซากรถและกลุ่มที่ทำหน้าที่ดัดแปลงรถ

ขณะเดียวกันก็จะตรวจสอบขยายผลด้วยว่ารถที่ผ่านการดัดแปลงและสวมทะเบียนเหล่านี้ถูกนำมาจำหน่ายให้กับร้านขายรถยนต์มือสองเพียงอย่างเดียว หรือถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายด้านอื่นๆ เช่นการขนถ่ายยาเสพติด ด้วยหรือไม่

พล.ต.ต.ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ขอแจ้งเตือนประชาชนที่มีความประสงค์จะซื้อรถยนต์มือสองให้ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังว่ารถยนต์ที่ครอบครองนั้นเป็นรถที่ถูกดัดแปลงหรือสวมทะเบียน โดยขอให้ผู้ซื้อตรวจดูสมุดคู่มือว่ามีการออกสมุดเล่มใหม่ทดแทนเล่มเดิมที่สูญหายหรือชำรุดหรือไม่ เป็นรถที่ผ่านการประมูลมาจากบริษัทประกันภัยหรือไม่ และมีการแจ้งย้ายในหลายจังหวัดหรือไม่

ขณะเดียวกันควรซื้อขายกับผู้ขายที่รู้จักหรือสามารถติดตามได้กรณีที่รถมีปัญหา รวมทั้งหากสามารถสอบถามรายละเอียดจากผู้ครอบครองรถก่อนหน้าก็จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่รอบด้านมากยิ่งขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น