“ป่าโมกวิกฤต” คันดินถล่มลงเจ้าพระยา

อ่างทอง - อำเภอป่าโมก เมืองอ่างทองเริ่มวิกฤต คันดินป้องกันพังสไลด์ลงเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่เร่งป้องกัน หวั่นน้ำทะลักเข้าเขตเศรษฐกิจ การค้าเสียหาย

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลตำบลป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้เร่งนำทรายบรรจุลงในกระสอบป่านใบใหญ่แล้วใช้เข็มเย็บกระสอบนำลงไปในริมตลิ่งที่ตอกเสาเข็มไม้ไว้แล้วเพื่อเสริมความแข็งแรงให้แก่คันดินที่พังสไลด์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 50 เมตร

โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง มีจุดเสี่ยงที่ดินจะสไลด์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ด้วยกัน 2 จุด จุดแรกอยู่ที่กำแพงข้างวัดป่าโมกวรวิหาร ที่พังลงแม่น้ำยาวประมาณ 60 เมตร เทศบาลฯ ได้เร่งซ่อมแซมตอกเสาเข็มไม้แล้วนำดินมาถมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่คันดินอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าตลาด วัด และโรงเรียน

ส่วนจุดที่ 2 นั้นอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร คันดินพังทลายเช่นกัน ตรงนี้รถสิบล้อเข้าไม่ได้จำต้องแบกกระสอบทรายลงถมหลังน้ำเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และตั้งเครื่อสูบน้ำที่ทะลักเข้าท่อน้ำทิ้งแล้ว

ส่วนบริเวณริมคลองโผงเผง ม.5 ต.โผงเผง อ.ไชโย จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นแนวคันดินกั้นน้ำซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการพังน้ำทะลักเข้าพื้นที่บ้านเรือนประชาชน นางกุลฟาลี เทพารักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โผงเผง ได้นำกำลังทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ 31 นาย พร้อมเครื่องจักรกลลงพื้นที่แนวคันดินกั้นน้ำ โดยเร่งตอกเสาเข็มพร้อมเรียงกระสอบทรายเสริมคันดิน โดยใช้เสาเข็มไม้ยูคาลิปตัส 600 ต้นเพื่อปักตลอดแนวพื้นที่เสี่ยง เพราะจุดดังกล่าวน้ำได้ไหลทะลักพังแนวกั้นดินกั้นน้ำทุกปี และทำให้พื้นที่บ้านเรือนหมู่ที่ 5, 6 ต.โผงเผง จมอยู่ใต้น้ำกว่า 350 ครัวเรือน กว่า 1,000 คน เพราะในขณะนี้น้ำที่ไหลผ่านครองโผงเผงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่าเป็นห่วง

ด้านสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทองนั้นยังเพิ่มขึ้นที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง วัดได้ 7.30 เมตร ระบายอยู่ที่ 1,804 ลบ.ม./วินาที ทางด้านจังหวัดอ่างทองได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยภิบัติแล้ว 5 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.เมือง อ.วิเศษชัยชาญ อ.ป่าโมก อ.ไชโย และอำเภอโพธิ์ทอง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 662 คน 218 หลังคาเรือน