นครปฐม - บุตรบุญธรรมของ “ภาวนา ชนะจิต” หรือ “ไข่มุกเอเชีย” พร้อมญาติเข้าตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านพัก แต่เกิดมีปากเสียงลั่นบ้าน ส่อวุ่นหลังดารารุ่นใหญ่จากไปไม่กี่วัน
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ นายพันธ์ยศ รัชดาภรณ์วานิชย์ นางหัทยา เหล่าแสงทอง น้องสาวของนางภาวนา ชนะจิต ซึ่งเป็นบิดามารดาที่แท้จริงของนายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี ที่นางภาวนา ชนะจิต ได้รับเป็นบุตรบุญธรรม พร้อมกับนายชวรัชต์ ประเสริฐอดิสรณ์ อายุ 60 ปี เพื่อนสนิทที่นางภาวนา ชนะจิต ให้ความไว้ใจ พร้อมด้วยญาติหลายคนได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 44/22 ม.1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของนางภาวนา อาศัยอยู่ก่อนเสียชีวิตเพื่อขอพบกับนายณัฐพงศ์ หรือเปรม หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี สามีของอดีตนางเอกชื่อดัง ในการขอตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพัก
โดยช่วงที่นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลกำลังตรวจสอบเอกสารต่างๆ ภายในบ้านท่ามกลางญาติๆ ที่ร่วมกันเป็นสักขีพยาน นายชวรัชต์ ประเสริฐอดิสรณ์ อายุ 60 ปี เพื่อนสนิทของนางภาวนา ชนะจิต ซึ่งได้มายืนรออยู่ที่หน้าบ้าน ได้เดินเข้ามาร่วมตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านร่วมกับญาติ ทำให้นายณัฐพงศ์ เกิดความไม่พอใจ และได้เชิญให้นายชวรันต์ ออกจากตัวบ้าน และให้เหลือเพียงคนที่อนุญาตได้อยู่ภายบ้านพร้อมกับสื่อเท่านั้น ทำให้ทั่งคู่เกิดมีปากเสียงกัน โดยนายชวรัตน์ ได้แสดงความไม่พอใจ และชี้หน้านายณัฐพงศ์ว่า ไม่มีสิทธิที่จะมาไล่ตนเองออกจากบ้าน เพราะตนเองได้ตรวจสอบจนรู้มาว่าบ้านพักหลังดังกล่าวเป็นของใคร และนายณัฐพงศ์ ก็ไม่มีสิทธิไล่ตนเอง ทำให้บรรยากาศตึงเครียด ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้พยายามช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอย่างสงบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบช่วยควบคุมตัวนายชวรัตน์ ออกมาสงบสติอารมณ์ที่หน้าบ้านเช่นเดิม
นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล บุตรบุญธรรมของนางภาวนา บอกว่า วันนี้ญาติๆ หลายคนต่างสงสัยว่านางภาวนา นั้นได้มีการทำพินัยกรรมไว้ให้หรือไม่ แต่ช่วงที่กำลังจะเปิดตู้เซฟกลับมีปากเสียงกันในบ้าน จึงทำให้การตรวจสอบเอกสารต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปเป็นวันอื่นแทน ซึ่งยังคิดว่าแม่ต้องเขียนอะไรไว้บ้าง แต่ก็ยังจะหวังเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับญาติๆ อีกครั้งหลังเหตุการณ์จะดีขึ้นกว่านี้
ด้านนายณัฐพงศ์ บอกว่า วันนี้ ตนเองได้ให้ญาติของนาวภาวนาพร้อมบุตรบุญธรรม เข้ามาตรวจสอบเอกสาร และทรัพย์สินต่างๆ แต่นายชวรัตน์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงขอให้ออกไปนอกบ้านพัก แต่กลับแสดงท่าทีไม่พอใจตนเอง จึงขอให้ทั้งหมดกลับไปก่อน และสงบสติอารมณ์ เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ค่อยมคุยกันอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้วันนี้จะยังมีการจัดงานสวดพระอภิธรรมให้แก่นางภาวนา ชนะจิต และยังรอผลการชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอยากจะให้มีการใช้เครื่องจับเท็จตรวจสอบนายณัฐพงศ์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ยังไม่ทันเสร็จพิธีทั้งญาติ และเพื่อนสนิทนั้นต่างแสดงความเป็นห่วงทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของผู้ตายว่ามีมากน้อยเพียงใดอย่างละเอียด และดูท่าทีว่าเรื่องการแจกแจงทรัพย์สินครั้งนี้จะมีเรื่องที่คาใจญาติของผู้ตายอีกหลายคน และคงจะมีการตรวจสอบอีกมากต่อไป
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ นายพันธ์ยศ รัชดาภรณ์วานิชย์ นางหัทยา เหล่าแสงทอง น้องสาวของนางภาวนา ชนะจิต ซึ่งเป็นบิดามารดาที่แท้จริงของนายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี ที่นางภาวนา ชนะจิต ได้รับเป็นบุตรบุญธรรม พร้อมกับนายชวรัชต์ ประเสริฐอดิสรณ์ อายุ 60 ปี เพื่อนสนิทที่นางภาวนา ชนะจิต ให้ความไว้ใจ พร้อมด้วยญาติหลายคนได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 44/22 ม.1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของนางภาวนา อาศัยอยู่ก่อนเสียชีวิตเพื่อขอพบกับนายณัฐพงศ์ หรือเปรม หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี สามีของอดีตนางเอกชื่อดัง ในการขอตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพัก
โดยช่วงที่นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลกำลังตรวจสอบเอกสารต่างๆ ภายในบ้านท่ามกลางญาติๆ ที่ร่วมกันเป็นสักขีพยาน นายชวรัชต์ ประเสริฐอดิสรณ์ อายุ 60 ปี เพื่อนสนิทของนางภาวนา ชนะจิต ซึ่งได้มายืนรออยู่ที่หน้าบ้าน ได้เดินเข้ามาร่วมตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านร่วมกับญาติ ทำให้นายณัฐพงศ์ เกิดความไม่พอใจ และได้เชิญให้นายชวรันต์ ออกจากตัวบ้าน และให้เหลือเพียงคนที่อนุญาตได้อยู่ภายบ้านพร้อมกับสื่อเท่านั้น ทำให้ทั่งคู่เกิดมีปากเสียงกัน โดยนายชวรัตน์ ได้แสดงความไม่พอใจ และชี้หน้านายณัฐพงศ์ว่า ไม่มีสิทธิที่จะมาไล่ตนเองออกจากบ้าน เพราะตนเองได้ตรวจสอบจนรู้มาว่าบ้านพักหลังดังกล่าวเป็นของใคร และนายณัฐพงศ์ ก็ไม่มีสิทธิไล่ตนเอง ทำให้บรรยากาศตึงเครียด ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้พยายามช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอย่างสงบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบช่วยควบคุมตัวนายชวรัตน์ ออกมาสงบสติอารมณ์ที่หน้าบ้านเช่นเดิม
นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล บุตรบุญธรรมของนางภาวนา บอกว่า วันนี้ญาติๆ หลายคนต่างสงสัยว่านางภาวนา นั้นได้มีการทำพินัยกรรมไว้ให้หรือไม่ แต่ช่วงที่กำลังจะเปิดตู้เซฟกลับมีปากเสียงกันในบ้าน จึงทำให้การตรวจสอบเอกสารต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปเป็นวันอื่นแทน ซึ่งยังคิดว่าแม่ต้องเขียนอะไรไว้บ้าง แต่ก็ยังจะหวังเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับญาติๆ อีกครั้งหลังเหตุการณ์จะดีขึ้นกว่านี้
ด้านนายณัฐพงศ์ บอกว่า วันนี้ ตนเองได้ให้ญาติของนาวภาวนาพร้อมบุตรบุญธรรม เข้ามาตรวจสอบเอกสาร และทรัพย์สินต่างๆ แต่นายชวรัตน์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงขอให้ออกไปนอกบ้านพัก แต่กลับแสดงท่าทีไม่พอใจตนเอง จึงขอให้ทั้งหมดกลับไปก่อน และสงบสติอารมณ์ เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ค่อยมคุยกันอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้วันนี้จะยังมีการจัดงานสวดพระอภิธรรมให้แก่นางภาวนา ชนะจิต และยังรอผลการชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอยากจะให้มีการใช้เครื่องจับเท็จตรวจสอบนายณัฐพงศ์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ยังไม่ทันเสร็จพิธีทั้งญาติ และเพื่อนสนิทนั้นต่างแสดงความเป็นห่วงทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของผู้ตายว่ามีมากน้อยเพียงใดอย่างละเอียด และดูท่าทีว่าเรื่องการแจกแจงทรัพย์สินครั้งนี้จะมีเรื่องที่คาใจญาติของผู้ตายอีกหลายคน และคงจะมีการตรวจสอบอีกมากต่อไป