กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์กำชับนายอำเภอเฝ้าระวังปัญหาภัยแล้งทุกพื้นที่ หลังฝนตกไม่ทั่วฟ้าน้ำเขื่อนลำปาวไม่เพิ่ม อีกทั้งแหล่งน้ำดิบอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติเพียงร้อยละ 27 ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 8 หมื่นไร่
จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงแม้จะมีในตกลงมาแต่ก็ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำด้านอำเภอท่าคันโท อำเภอห้วยเม็ก อำเภอหนองกุงศรี ปริมาณน้ำฝนตามแหล่งน้ำธรรมชาติไม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนลำปาวที่จนถึงขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเพียง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหานี้ได้กำชับให้ นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอเฝ้าระวังปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตชลประทานเกษตรกรจะต้องลดพื้นที่การเพาะปลูก โดยเฉพาะการทำนา ซึ่งขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว หากฝนไม่ตกจะทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นมีพื้นที่นาข้าวตายแล้งแล้วกว่า 8 หมื่นไร่ การทำนารอบใหม่ของเกษตรกรจึงเป็นความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง
ทั้งนี้ จากปริมาณฝนในช่วงมรสุมก็ยังไม่ทำให้น้ำเขื่อนลำปาวเพิ่มขึ้นและขณะนี้มีน้ำอยู่เพียง 526 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 27 จากปริมาณกักเก็บที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม. การเตรียมการรับมือปัญหาภัยแล้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ประชาชนนอกพื้นที่ชลประทานควรจัดเตรียมภาชนะกักเก็บน้ำไว้รอรับการช่วยเหลือในระยะนี้