พระนครศรีอยุธยา - อธิบดีกรมชลประทานลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำคลองบางบาล และวัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนคศรีอยุธยา คาดภายใน 4-5 วันนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (11 ก.ย.) นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ได้เดินทางมาดูพื้นที่คลองบางบาล และวัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนคศรีอยุธยา พร้อมเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ตลอดระยะเวลา 3-4 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะ จ.กำแพงเพชร วัดปริมาณฝนได้ 161.40 มิลลิเมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำปิง แล้วไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ ตามลำดับ ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุด ที่ จ.นครสวรรค์ ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ได้ 1,861 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณน้ำสูงสุดที่รับได้คือ 3,590 ลบ.ม.ต่อวินาที
กรมชลประทานได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ในขณะที่เขื่อนเจ้าพระยามีขีดจำกัดในการรับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณน้ำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อน ยกเว้นในพื้นที่ต่ำบางแห่งบริเวณคลองโผงแผงซึ่งมักจะเกิดน้ำท่วมทุกปี
ส่วนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุะยา ตรง อ.บางบาล ที่มีการระบายน้ำลงมาจนน้ำเอ่อลน้ตลิ่งนั้น คาดว่าภาย 4-5 วันนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ หากปริมาณน้ำฝนไม่ตกลงมาเพิ่มก็คงเป็นไปตามแผนการระบายน้ำ สำหรับการระบายน้ำจนน้ำเอ่อล้นในปีนี้ถือว่าเข้ากลางฤดูฝนแล้วไม่เหมือนกับปีที่แล้วซึ่งในช่วงนี้ปริมาณน้ำเริ่มท่วมมากแล้ว
หลังจากนั้น นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ได้เดินทางต่อไปที่คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
