ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจพร้าวตามรวบ 2 หนุ่มม้งขับรถแหกด่านหนี หลังขนยาจาก อ.ฝาง เตรียมนำเข้า อ.เมือง หลังแหกด่านเอายาซุกกอไผ่-ถอดป้ายทะเบียนหวังหนีการจับกุม แต่สุดท้ายไม่รอดโดนจับ-ยึดยาบ้า 376,000 เม็ดได้ ผบช.ภาค 5 ระบุเดือน ต.ค. เตรียมประสานทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มข้นด่านตรวจเชียงใหม่-เชียงราย พร้อมเตือนชาวม้งอย่าหลงผิดหลังพบแห่รับงานขนยาเพิ่ม
วันนี้ (10 ก.ย. 2555) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภาค 5 )และคณะ นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 5 พร้อมด้วยตัวแทนจากกองกำลังผาเมือง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 376,000 เม็ด
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พร้าว สามารถสกัดจับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กจ 3034 ลำปาง ได้ที่บริเวณสี่แยกวัดกลางเวียง ถ.เขื่อนเพชร หมู่ 1 ต.เวียง อ.พร้าว พร้อมควบคุมตัวนายภาค เลาย่าง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 13 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และนายพฤหัส เลาย่าง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 13 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มาทำการตรวจค้นและตรวจสอบที่ สภ.พร้าว หลังจากที่ทั้งสองขับรถคันดังกล่าวหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่จุดตรวจห้วยส้าน ถ.พร้าว-ไชยปราการ หมู่ 1 ต.สันทราย อ.พร้าว
จากการตรวจสอบภายในรถพบว่า มีการถอดแผ่นป้ายทะเบียนมาเก็บไว้ที่เบาะหลังภายในรถ ประกอบกับผู้ต้องหามีอาการพิรุธ จึงทำการสอบสวนจนทราบว่านายภาค ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาบ้าจากพื้นที่ อ.ฝาง เพื่อนำไปส่งให้ผู้ว่าจ้างที่ อ.เมือง โดยระหว่างที่หนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ทั้งสองได้ร่วมกันนำกล่องลำไยจำนวน 4 กล่อง ที่บรรจุยาบ้าไปซุกซ่อนไว้ ที่บริเวณกอไผ่ข้างถนนสายบ้านห้วยส้าน-บ้านสันปง หมู่ 5 ต.สันทราย อ.พร้าว จากนั้นได้ขับรถต่อมาอีกประมาณ 2 กม. ก่อนที่นายพฤหัสจะลงจากรถไปถอดป้ายทะเบียนออกเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่
หลังการสออบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายภาค ไปชี้เส้นทางหลบหนีและจุดที่นำยาเสพติดไปซุกซ่อน เมื่อไปถึงจุดที่ผู้ต้องหาระบุว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ พบกล่องกระดาษที่ใช้บรรจุลำไย จำนวน 4 กล่อง วางเรียงอยู่ข้างกอไผ่ซึ่งมีพงหญ้าปกคลุม ตรวจสอบภายในพบมียาบ้าบรรจุอยู่ประมาณ 376,000 เม็ด จึงนำของกลางทั้งหมดกลับมาที่ สภ.พร้าว พร้อมทั้งให้นายพฤหัส มายืนยันของกลาง
นายพฤหัสให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวตนและนายภาคได้ร่วมกันรับจ้างลักลอบขนจริง โดยนายภาคได้ค่าจ้าง 60,000 บาท ส่วนตนได้รับค่าจ้าง 40,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.พร้าว เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้คาดว่าจะถูกนำมาจำหน่ายในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเคยลักลอบขนยาเสพติดมาก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้ง สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นผลจากการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับการข่าวที่สามารถสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ ตนจะให้นโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน จ.เชียงใหม่และเชียงรายเพิ่มความเข้มข้นในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามพื้นที่สำคัญๆ ต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น โดยจะประสานความร่วมมือกับทั้ง ป.ป.ส. ตำรวจตระเวนชายแดนและทหารในการปฏิบัติงาน
ขณะเดียวกันผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 ยังกล่าวด้วยว่า การจับกุมผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดในระหลัง พบว่าผู้ต้องหาเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้งเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในวันนี้ จึงอยากฝากไปถึงพี่น้องชาวไทยภูเขาเผ่าม้งว่า ทุกท่านเป็นชนชาตินักรบที่เคยทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองมาแล้วมากมาย จึงไม่ควรหลงผิดหันไปทำงานลักลอบขนยาเสพติดให้กับกลุ่มนายทุน เพราะเงินที่กลุ่มนายทุนเหล่านี้ได้จากการจำหน่ายยาเสพติดนั้นถือเป็นเงินจำนวนมหาศาล
เมื่อเทียบกับค่าจ้างที่นำมาจ้างให้ขนยาเสพติดแล้วถือเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพี่น้องชาวไทยภูเขาเผ่าม้งก็ต้องเป็นผู้ที่รับโทษ ในขณะที่กลุ่มนายทุนสามารถลอยนวลอยู่ได้ ดังนั้น จึงไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับการขนยาเสพติดหรือเสี่ยง เพื่อหวังแค่ประโยชน์ส่วนหนึ่งจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอีก