เชียงราย - ผบช.ภ.5 ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในน้ำโขงยอมรับพื้นที่เหนือสามเหลี่ยมทองคำยังเป็นจุดบอด ล่าสุดหลัง “หน่อคำ” ถูกจีนจับยังมีกองกำลังติดอาวุธเคลื่อนไหวอีก 3 กลุ่ม ระบุแม้แต่พม่ายังยึดพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จไม่ได้
วันนี้ (10 ก.ย.) พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.ภาค 5 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) นายพรชาติ บุนนาค ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงระหว่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ทหารจากกองกำลังผาเมือง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในแม่น้ำโขงจำนวนกว่า 100 นาย ได้ประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง ที่ห้องประชุมโรงแรมอินคำ อ.เมืองเชียงราย
ศปปข.ตั้งขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ยิงเรือสินค้าจีนในแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำฝั่งพม่าจนทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 13 ศพ และไทย พม่า สปป.ลาว จีน ร่วมกันจัดตั้งกองกำลังคุ้มกันความปลอดภัยในแม่น้ำโขง โดยในส่วนของประเทศไทยมีการจัดตั้งเป็น ศปปข.และมี ศปปข.ส่วนหน้าอยู่ที่ท่าเรือ อ.เชียงแสน
พล.ต.ท.สุเทพกล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในแม่น้ำโขง ศปปข.ได้พยายามทบทวนการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าพื้นที่ความยาวตลอด 9 กิโลเมตรในแม่น้ำโขงเหนือสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไป อันเป็นพื้นที่เกี่ยวเนื่องในเขตแดนของพม่า ลาว และไทย ยังถือเป็นจุดล่อแหลมต่อการก่อเหตุร้าย
ทั้งนี้ ตามข้อมูลระบุชัดว่าพื้นที่ในพิกัดเหนือสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไประยะที่ 15-30 กิโลเมตร บริเวณเมืองพง หรือบ้านสามพู ยังเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดเหตุร้ายมากที่สุด เนื่องจากเป็นเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ซึ่งหลังจากทางการจีนได้จับตัวนายจายหน่อคำไปแล้ว ยังพบว่าการเคลื่อนไหวยังคงมีอยู่อีกประมาณ 3 กลุ่ม และแม้แต่ทางการพม่าเองยังยอมรับว่ายากที่จะปราบปราม-เข้ายึดพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ที่ผ่านมาทำได้เพียงการเข้าโจมตีเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ในการปฏิบัติงานของ ศปปข.นั้นดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ให้ทุกหน่วยใช้ความระมัดระวังในการทำงานเขตพื้นที่รอยต่อ ไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่นอกราชอาณาจักร โดยเฉพาะเป้าหมายที่จีนต้องการเห็นภาพการลาดตระเวนร่วม 4 ชาตินั้น คงยังปฏิบัติไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางการจีน พม่า และ สปป.ลาว ก็ได้ดูแลพื้นที่ที่ออกจากเขตแดนไทยอยู่ และตามกฎหมายไทยก็ไม่อนุญาตให้นำเรือรวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเข้ามาได้
ด้านนายพรชาติ บุนนาค ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงระหว่างประเทศ กล่าวว่า จีนให้ความสนใจในเรื่องลุ่มแม่น้ำโขงมาก โดยวางนโยบายชัดที่จะขับเคลื่อน 4 ชาติ ล่าสุดทางการจีนได้แจ้งถึงความพร้อมเรื่องระบบดาวเทียม และการลาดตระเวนร่วม แต่คงต้องใช้ระยะเวลาอีกช่วงหนึ่งที่จะมีความเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติงานร่วมกันได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในปี 2554 มีสถานการณ์ลอบยิงเรือสินค้าที่ล่องมาจากประเทศจีน รวม 6 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2554 โดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายใช้เรือเร็วเล็กติดอาวุธยิงใส่เรือมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ครั้งที่ 2 ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายตรวจค้นเรือ แต่ไม่มีการยึดทรัพย์สินแต่อย่างใด ครั้งที่ 3 ถูกเรือเร็วเล็กติดอาวุธประกบยิง ตรวจค้นและยึดบุหรี่ของลูกเรือ ครั้งที่ 4 เรือนำเที่ยวของจีนถูกตรวจค้นและถูกยึดเอาของมีค่าของผู้โดยสารรวมมูลค่าประมาณ 80,000 หยวน ครั้งที่ 5 เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังไม่ทราบฝ่ายกับทหารเมียนมาร์ โดยทหารเมียนมาร์ใช้เรือจีนในการขนย้ายกำลัง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2554 มีลูกเรือจีนเสียชีวิตรวม 13 ศพดังกล่าว