เพลิงไหม้ศาลาวัดดังบุรีรัมย์วอดเสียหายกว่าล้านบาท

บุรีรัมย์ - เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญ “วัดโพนทอง” อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เก่าแก่ก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีวอดเสียหายทั้งหลัง รวมมูลค่ากว่า 1 ล้าน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าอาวาสวัดเกิดเหตุ วอนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสร้างศาลาหลังใหม่ให้พระประกอบกิจของสงฆ์ พิธีทางศาสนา

วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืด ร.ต.อ.นิยม จันทร์หา ร้อยเวรฯ สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญวัดโพนทอง ม.3 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ใกล้เคียงมาช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บริเวณศาลาการเปรียญอย่างรุนแรง เนื่องจากศาลาการเปรียญหลังดังกล่าวเป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ และเก่าแก่ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2528 รวมกว่า 27 ปี ซึ่งทางวัดได้ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา หอฉัน รวมทั้งจัดเก็บพระพุทธรูป และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในวัด เช่น บาตร เสื่อ พรม โต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม ได้ถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายเกือบทั้งหมด

จากนั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลพุทไธสง และ อบต.บ้านแสงได้นำรถน้ำจำนวน 5 คัน ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงไว้ได้ เนื่องจากศาลาการเปรียบ และสิ่งของที่อยู่ภายในล้วนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงทำให้เพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ศาลาการเปรียญ และสิ่งของที่อยู่ภายในถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายเกือบทั้งหมด

ทั้งนี้ ได้มีนายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอพุทไธสง พร้อมด้วย นายจีระศักดิ์ เฮงสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลพุทไธสง ได้มาคอยควบคุมดูแลและสั่งการในการระดมฉีดน้ำดับเพลิงในครั้งด้วย ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่มีพระสงฆ์อยู่ภายในศาลา

จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับศาลาการเปรียญดังกล่าวเป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ และค่อนข้างเก่าแก่ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้ไฟลุกลามไหม้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ มาทำการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง

ทางด้าน พระครูวิลาศ ธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดโพนทอง และเจ้าคณะอำเภอพุทไสง ได้ขอให้ผู้ใจบุญ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจของสงฆ์ รวมทั้งเป็นที่เก็บข้าวของ และให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ใช้เป็นสถานที่ในการทำบุญ หรือประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย เพราะภายในวัดมีศาลาเพียงหลังเดียว

ในเบื้องต้น วัดจะได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทางเทศบาล หรือทางอำเภอ ได้นำเต็นท์มากางเพื่อให้พระภายในวัดได้ใช้ประกอบกิจของสงฆ์ชั่วคราวไปก่อน