ลำปาง - เหยื่อแม่เมาะร้องให้รัฐบาลเยียวยารายละ 7.5 ล้านบาทเท่ากับผู้ชุมนุมทางการเมือง หลังยังหาข้อสรุปเรื่องการอนุมัติเงินกองทุนที่มีปัญหาไม่ได้
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งถึงความคืบหน้าภายหลังที่ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ลำปาง และได้เชิญคณะกรรมการกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทั้งในระดับตำบล และระดับภาคเข้าชี้แจง หลังกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะร้องเรียนว่า โครงการที่ตนเองเสนอขอรับการสนับสนุนเยียวยาไม่ได้รับการอนุมัติแม้แต่โครงการเดียว
หลังจากใช้เวลาครึ่งวันก็ยังหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ากับกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไม่ได้
สุดท้าย นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายผู้ป่วยแม่เมาะ ได้ยื่นข้อเสนอผ่านคณะกรรมาธิการการพลังงานฯ ว่า ขอให้นำเรื่องของผู้ป่วยแม่เมาะ จำนวน 131 ราย ที่ได้รับการพิสูจน์จากแพทย์เฉพาะทาง และผ่านการพิพากษาจากศาลปกครอง เชียงใหม่ว่า เป็นผู้ได้รับผลกระทบจริง และศาลมีคำสั่งให้ กฟผ. จ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ป่วย แต่ขณะนี้ กฟผ.ยังใช้สิทธิในการอุทธรณ์อยู่ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยในจำนวน 131 รายได้เสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเยียวยาเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง คือ ให้รัฐบาลชดเชยเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท เนื่องจากผู้ป่วยแม่เมาะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐแทนการขอสนับสนุนจากกองทุนฯ ซึ่งยังมีข้อพิพาท และหาข้อยุติไม่ได้
ขณะที่นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังยุติการประชุมในช่วงบ่ายที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ได้เป็นผู้พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน หลังทางกรรมาธิการฯ ได้ชี้ประเด็นปัญหาให้ร่วมพิจารณากันในวันนี้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาคือ ทุกฝ่ายไม่ยอมถอยกันคนละก้าว และคณะกรรมการฯ เองก็ยังสับสนและยังไม่ชัดเจนในเรื่องการทำความเข้าใจระเบียบ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ซึ่งก็ต้องมีการปรับกันไป เนื่องจากกฎระเบียบที่นำมาใช้นี้เพิ่งเริ่มใช้เป็นปีแรกเท่านั้น และหากแก้ปัญหาที่นี่ไม่ได้ การสร้างโรงไฟฟ้าในที่อื่นๆ ก็จะมีปัญหาตามมาทั้งหมดด้วยเช่นกัน
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งถึงความคืบหน้าภายหลังที่ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ลำปาง และได้เชิญคณะกรรมการกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทั้งในระดับตำบล และระดับภาคเข้าชี้แจง หลังกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะร้องเรียนว่า โครงการที่ตนเองเสนอขอรับการสนับสนุนเยียวยาไม่ได้รับการอนุมัติแม้แต่โครงการเดียว
หลังจากใช้เวลาครึ่งวันก็ยังหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้ากับกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไม่ได้
สุดท้าย นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายผู้ป่วยแม่เมาะ ได้ยื่นข้อเสนอผ่านคณะกรรมาธิการการพลังงานฯ ว่า ขอให้นำเรื่องของผู้ป่วยแม่เมาะ จำนวน 131 ราย ที่ได้รับการพิสูจน์จากแพทย์เฉพาะทาง และผ่านการพิพากษาจากศาลปกครอง เชียงใหม่ว่า เป็นผู้ได้รับผลกระทบจริง และศาลมีคำสั่งให้ กฟผ. จ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ป่วย แต่ขณะนี้ กฟผ.ยังใช้สิทธิในการอุทธรณ์อยู่ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยในจำนวน 131 รายได้เสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเยียวยาเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง คือ ให้รัฐบาลชดเชยเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท เนื่องจากผู้ป่วยแม่เมาะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐแทนการขอสนับสนุนจากกองทุนฯ ซึ่งยังมีข้อพิพาท และหาข้อยุติไม่ได้
ขณะที่นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังยุติการประชุมในช่วงบ่ายที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ได้เป็นผู้พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน หลังทางกรรมาธิการฯ ได้ชี้ประเด็นปัญหาให้ร่วมพิจารณากันในวันนี้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาคือ ทุกฝ่ายไม่ยอมถอยกันคนละก้าว และคณะกรรมการฯ เองก็ยังสับสนและยังไม่ชัดเจนในเรื่องการทำความเข้าใจระเบียบ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ซึ่งก็ต้องมีการปรับกันไป เนื่องจากกฎระเบียบที่นำมาใช้นี้เพิ่งเริ่มใช้เป็นปีแรกเท่านั้น และหากแก้ปัญหาที่นี่ไม่ได้ การสร้างโรงไฟฟ้าในที่อื่นๆ ก็จะมีปัญหาตามมาทั้งหมดด้วยเช่นกัน
