อุตรดิตถ์ - ปภ.อุตรดิตถ์ เผย น้ำแม่พูลท่วม “ชุมชนเกาะตาเพชร เมืองลับแล” รอบ 3 ในช่วง 2 สัปดาห์ แต่ชาวบ้านเริ่มปรับตัวได้แล้ว เตือน 7 อำเภอเตรียมพร้อมรับมือน้ำป่า โคลนถล่ม ย้ำผู้นำชุมชนจัดเวรยามเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
วันนี้ (4 ก.ย.) นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากผู้นำหมู่บ้านใน ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ว่า เมื่อช่วงตีสามของวันนี้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 60 มิลลิเมตร
ทำให้น้ำจากลำห้วยแม่พร่องเหนือพื้นที่ ต.แม่พูลไหลบ่าเข้ามาในพื้นที่ แต่ไม่สร้างผลกระทบอะไรต่อประชาชน และพื้นที่การเกษตร มีเพียงประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ประชาชนได้ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงก่อนหน้านี้แล้วเพราะในพื้นที่เคยเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 55 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ปริมาณน้ำดังกล่าวเริ่มไหลเข้าสู่พื้นที่บ้านเกาะตาเพชร หมู่ที่ 3 และบ้านโพธิ์ทอง หมู่ที่ 6 ต.ไผ่ล้อม-ทุ่งยั้ง อ.ลับแล ซึ่งอยู่ตอนล่างของ ต.แม่พูล ระดับน้ำได้เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับอยู่ที่ราว 40-50 เซนติเมตรในพื้นที่ลุ่ม ถนนบางสายถูกน้ำท่วม รถเก๋งไม่สามารถผ่านได้ ส่วนบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบราว 200 หลังคาเรือน
การเกิดน้ำท่วมบ้านเกาะตาเพชรครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้วในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็สามารถปรับตัวได้แล้วเนื่องจากในแต่ละปีเกาะตาเพชร และบ้านโพธิ์ทองมักจะเกิดน้ำท่วม 4-5 ครั้ง
ส่วนที่ อ.ตรอน ซึ่งอยู่ตอนล่างของ อ.เมือง และ อ.ลับแล นอกจากจะรับน้ำจากพื้นที่ 2 อำเภอแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 60 มิลลิเมตรแต่ไม่สร้างผลกระทบต่อบ้านเรือนชาวบ้าน ส่วนนาข้าวของชาวนาที่มีการหว่านดำแล้ว หากคืนนี้ฝนไม่ตกลงมา หรือตกไม่มากนาข้าวคงไม่เสียหาย
ในบ่ายวันเดียวกันนี้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ประกาศให้หมู่บ้านต่างๆ ที่มีประชาชนอาศัยตามที่ลาดเชิงเขา หรือติดกับภูเขา และแหล่งน้ำให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง ลับแล ทองแสนขัน ท่าปลา บ้านโคก ฟากท่า และอำเภอน้ำปาด ระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มตั้งแต่วันที่ 4- 6 ก.ย. 55 นี้
พร้อมกับขอความร่วมมือผู้นำในหมู่บ้าน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มิสเตอร์เตือนภัย อปพร.ให้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จัดเวรยามติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลจากภูเขา หากพบว่าระดับน้ำตามลำห้วย คูคลองต่างๆ มีน้ำเพิ่มสูงผิดจากปกติ และมีสีแดงขุ่น ให้รีบอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที
ขณะเดียวกัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุหลักและวิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำแต่ละหมู่บ้านให้ช่วยประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องลงพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนอย่าประมาทโดยเด็ดขาด