กาญจนบุรี - คุณยายวัย 85 ปีชาวเมืองกาญจน์ อาชีพเก็บผักขาย เก็บเงินใส่ผ้าห่อสะสมมานานกว่า 5 ปี จนมีเงินกว่า 1 แสนบาท หวิดโชคร้ายหลังทำห่อผ้าที่ใส่เงินไว้กว่า 1 แสนบาทตกหาย ต้องปั่นรถจักรยานตามหาไปทั่ว แต่โชคดีที่ห่อเงินตกในมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำส่งตำรวจเก็บรักษาไว้ส่งคืนให้คุณยาย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุชน ทิวากร รองผู้อำนวยการกองงาน หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ถนนแสงชูโต ช่วงสี่แยกไฟแดงมิราเคิล ออฟไลฟ์ หมู่ 3 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีว่า มีหญิงชราวัย 85 ปีอาชีพเก็บผักขี่รถจักรยานตระเวนขายไปตามตลาด และมาขายผักที่หน้ามูลนิธิฯ ได้เกิดทำถุงผ้าใส่เงินตกหาย โดยภายในถุงผ้านั้นมีเงินสดอยู่กว่าแสนบาท
หลังทราบเรื่อง ผู้สื่อข่าวจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบยายเล็ก รอดโพธิ์ทอง อายุ 85 ปี พักอยู่ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 8 ต.กร่างทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กำลังนั่งคุยกับนายสุชน ทิวากร และ ด.ต.จตุพร ตันธนชัย อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ท่าม่วง
ทั้งนี้ ยายเล็ก ได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพเก็บผักขาย และได้ขี่รถจักรยานเอาผักบุ้งที่เก็บตามท้องร่องข้างทุ่งนาไปขายตามตลาด และได้ขี่จักรยานแวะมาขายที่มูลนิธิฯ นี้ โดยระหว่างที่ขี่รถจักรยานมาขายผักที่หน้ามูลนิธิฯ ได้เกิดทำห่อผ้าใส่เงินตกหาย หลังจากนั้นตนได้ขี่รถจักรยานตามหาในที่ต่างๆ ทั้งในตลาดที่เอาผักไปขาย แต่ก็หาไม่เจอ และไม่มีใครเห็น จึงขี่รถจักรยานย้อนกลับมาที่มูลนิธิฯ เพื่อมาถามเจ้าหน้าที่ที่มูลนิธิฯ จึงทราบว่ามีคนพบและเก็บไว้ให้
“เงินที่หายนั้นเป็นเงินที่ยายเก็บสะสมมากว่า 5 ปี ตั้งแต่สมัยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อสมัคร (สุนทรเวช) ทุกวันนี้ยายเก็บผักบุ้งไปขายก็มีคนใจบุญช่วยซื้อ ซึ่งยายไม่มีครอบครัว มีแต่หลานชายที่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ส่งเงินมาให้ทุกเดือน สำหรับยายเคยประสบอุบัติเหตุจนแขนข้างซ้ายหัก ทุกวันนี้ก็ยกของหนักไม่ได้” ยายเล็ก กล่าว
ด้านนายสุชน ทิวากร รองผู้อำนวยการกองงานหนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (2 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิฯ ได้แจ้งให้ตนทราบว่า มียายที่เอาผักมาขายทำห่อผ้าใส่เงินตกหายกว่าแสนบาท ตอนแรกตนไม่เชื่อ แต่พอมาทราบความจริงว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านที่มาไหว้รูปปั้นขุนรัตนาวุฒิ ที่มูลนิธิฯ เขาเก็บห่อผ้าได้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาเปิดดูก็พบเงินสดจำนวนมาก ตนจึงสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่นำไปมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง เพื่อเก็บรักษาไว้ หากเจ้าของมาติดตามก็จะได้ส่งคืนให้แก่เจ้าของต่อไป
“หญิงชรารายนี้เป็นแม่ค้าเก็บผักมาขายที่มูลนิธิฯ เป็นประจำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มักจะช่วยเหลือโดยการซื้อผักไปกิน บางคนยังให้เงินหญิงชราไปครั้งละ 50 บาท หรือครั้งละ 100 บาท เพราะเห็นสภาพแล้วเกิดความสงสาร” นายสุชน กล่าว
นายสุชน กล่าวต่อว่า หลังมีการสอบถามรายละเอียดจากคุณยายเล็ก จนทราบแน่ชัดว่า ยายเล็กเป็นเจ้าของห่อผ้า และเงินดังกล่าวแล้ว ทาง ด.ต.จตุพร ตันธนชัย ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ท่าม่วง จึงได้แจ้งไปยัง พ.ต.ท.สหชัย พูลขวัญ พงส.(สบ 3) สภ.ท่าม่วง ทราบ หลังจากนั้นตนจึงพาคุณยายไปพบ พ.ต.ท.สหชัย และมีการสอบปากคำ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามกฎหมาย แต่พนักงานสอบสวนต้องทำตามระเบียบเรื่องการติดตามเจ้าทรัพย์สินที่หายไปก่อน โดยต้องเก็บรักษาไว้ในเวลาพอสมควร หากไม่มีคนอื่นมาแจ้งติดตามเงินหายในจำนวนเท่ากันก็จะส่งมอบคืนให้แก่คุณยายต่อไป
“สาเหตุที่ยังไม่สามารถคืนเงินให้ยาย ได้เพราะติดตรงข้อกฎหมายที่ระบุไว้ หากมีการเก็บทรัพย์สินที่สูญหายได้ต้องนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันสืบหาเจ้าของ โดยใช้เวลาในการพิสูจน์สิทธิตามกฎหมายอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เรื่องนี้ได้แจ้งให้คุณยายเล็ก หญิงชราทราบแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ช่วยเหลือเพื่อให้ยายได้เงินคืนเร็วขึ้นโดยจะรอเก็บรักษาไว้แค่ 7 วันก็จะส่งคืนให้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ยายเล็กได้พบ พ.ต.ท.สหชัย และได้รับฟังการชี้แจงข้อกฎหมายให้ฟังแล้ว ยายเล็กพอใจ และจะรอเมื่อครบกำหนดจะเดินทางกลับมารับห่อเงินคืนต่อไป
