ศูนย์ข่าวศรีราชา - 2 ทหารเกณฑ์ หอบหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีขบวนการต้มตุ๋นพาหนีทหารและแหกค่าย ด้านนายทหารพระธรรมนูญ รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
จากกรณีที่พลทหารหลายนายได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสัสดี ซึ่งมีหน้าที่ในการคัดเลือกชายไทยเข้ามาเป็นทหารรับใช้ชาติทั้ง 3 เหล่าทัพ เรียกร้องเงิน และนำหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี พร้อมแบบ สด.43 ที่ออกให้ทหาร ทั้งที่ทหารยังรับราชการอยู่ในสังกัดศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อีกทั้งพลทหารที่ยังไม่ครบกำหนดเข้ามารายงานตัวรับราชการ และได้มีการเปิดโปงถึงขบวนการของแก๊งนี้ว่า ทำกันมานานสืบทอดกันมา มีการเล่าขานบอกต่อกันมาในการเรียกร้องเงินช่วยไม่ให้เป็นพลทหาร โดยมีข้อเสนอให้โอนเงินเข้าบัญชี หรือจ่ายเงินสดให้คนละ 40,000 บาท
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ น.อ.นิวัธ ฮะเจริญ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ให้ความสนใจ และติดตามเรื่องนี้จำนวนมาก พร้อมทั้งได้ขอเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเรียกร้องเงินในการช่วยเหลือทหารโดยไม่ต้องมาเป็นทหารอย่างผิดระเบียบ เพื่อดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ น.อ.เอกชัย สุขวรรณโณ เสนาธิการฯ และ ร.ท.วิเชียร เดือนฉาย นายทหารพระธรรมนูญ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ ดำเนินการตรวจสอบรวบรวมเอกสารสอบสวนทหารทั้ง 2 นาย อย่างละเอียด พร้อมกับได้พาตัวมาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ และ ร.ต.ท.นเรศ บุญที พนักงานสอบสวน เพื่อบันทึกปากคำ และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหาฉ้อโกง เพราะมีหลักฐานด้านการเงิน เอกสารทางราชการครบถ้วน
พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า จากกรณีที่นายทหารพระธรรมนูญ พาพลทหาร 2 นาย มาแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมกับเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งได้ตรวจสอบเอกสารทางด้านการเงินแล้ว มีทั้งการส่งเงินทางธนาณัติ และการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ส่วนหลักฐานแบบ สด.43 ที่ทางแผนกสัสดีจังหวัดระยอง ได้ออกให้แก่พลทหารนายหนึ่งด้วยการให้ส่งใบ สด.43 (แดง) ตัวจริงไปให้ และได้ส่งใบแบบ สด.43 (ดำ) มาให้ทดแทน ทั้งที่ พลทหารนายนี้มาจาก จ.อุบลราชธานี และยังรับราชการทหารอยู่ในสังกัดศูนย์ฝึกทหารใหม่
ทางด้านพลทหารอีกนายที่มีภูมิลำเนาใน อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ก็เช่นกัน ได้ทำบันทึกการให้ปากคำไว้กับต้นสังกัดว่าได้มีการนำเงินให้แก่เจ้าหน้าที่เสมียนสัสดี จำนวน 40,000 บาท ก่อนจะมีการเกณฑ์จับใบดำ-ใบแดง โดยเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะช่วยไม่ให้เป็นทหาร แต่ปรากฏว่าจับใบแดง และต้องมารายงานตัวเป็นทหาร ผลัด 2/55 ตั้งแต่ 1 ส.ค.55 เสมียนคดีคนหนึ่งได้ติดต่อมาว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้ขอคืนเงิน แต่ได้มีเจ้าหน้าที่สัสดีอีกนาย บอกไม่ต้องคืนจะดำเนินการช่วยเหลือด้วยตัวเอง ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.55 ได้มารายงานตัวที่สัสดีอำเภอ และสัสดีจังหวัด ตามปกติ แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ ยศสิบเอก ได้แนะนำว่า เมื่อรายงานตัวแล้ว ก่อนที่จะขึ้นรถทหารที่มารับเดินทางไปสัตหีบให้เดินไปห้องน้ำ แล้วกลับไปบ้าน โดยไม่ต้องไปฝึก จึงได้ดำเนินการตามคำแนะนำ
แต่ปรากฏว่า ได้มีผู้นำชุมชนได้ล่วงรู้มาว่าพฤติกรรมแบบนี้เคยเป็นข่าวมาแล้วทางภาคใต้ ทหารต้องมาติดคุก และต้องเป็นทหารรับใช้ชาติทดแทนอีก 2 ปี จึงได้ตรวจสอบมายังต้นสังกัด ปรากฏว่ามีรายชื่อทหารหนีระหว่างนำส่ง จะต้องถูกออกหมายจับดำเนินคดีอาญา แต่ถ้าหนีก็ต้องหนีให้รอดนาน 10 ปี จึงได้ตัดสินใจให้พ่อ แม่ และญาติพาเข้ามารายงานตัวเข้ารับราชการทหาร ถึงแม้ว่าจะมีการคืนเงินกันแล้วก็ตาม แต่ความผิดนั้นสำเร็จตั้งแต่รับเงินแล้ว จึงสามารถรับแจ้งไว้ และจะดำเนินการให้ไปแจ้งความที่ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อออกหมายเรียก ข้าราชการสังกัดแผนกสัสดียศ จ.ส.อ. และ ส.อ. มาทำการสอบสวนต่อไป
พ.ต.ท.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นต้องออกหมายเรียก จ.ส.อ.เชษฐา จันทร์ผอง เสมียนสัสดีอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ที่มีเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จำนวนเงิน 30,000 บาท นายประดิษฐ์ จันทร์ผอง เจ้าหน้าที่แผนกสัสดีจังหวัดระยอง ที่มีชื่อระบุแน่ชัดในหลักฐานการส่งเงินทางธนาณัติมาสอบปากคำ อีกทั้งจะต้องขอตรวจสอบต้นขั้วแบบ สด.43 ที่ออกให้กับพลทหารที่อยู่จังหวัดอุบลราชธานี ซองจดหมายที่ส่งใบ สด.43 ที่ระบุส่งจากไปรษณีย์มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ด้วยการเสียค่าธรรมเนียมรายเดือนของแผนกสัสดีจังหวัดระยองอีกด้วย
ในเบื้องต้นได้รับแจ้งในข้อหาฉ้อโกง ส่วนเรื่องปลอมแปลงเอกสารของทางราชการต้องรอการตรวจสอบ ตรวจพิสูจน์จากหน่วยต้นสังกัดที่ออกมาให้ว่าถูกต้องหรือไม่ และผู้บังคับบัญชามีการเซ็นชื่อรับรองในใบ สด.43