xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มรักหลักประกันสุขภาพ ชม.ค้านนโยบาย 30 บาท-ยันแค่ประโยชน์ทางการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มรักหลักประกันสุขภาพเชียงใหม่เคลื่อนไหวพร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ ยื่นหนังสือผ่านรองผู้ว่าฯ แสดงความประสงค์ไม่ร่วมจ่าย 30 บาท หลังรัฐบาลเตรียมฟื้นนโยบาย 1 ก.ย.นี้ ระบุใช้นโยบาย 30 บาทไม่ช่วยพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ-แค่หวังผลทางการเมือง ยันประชาชนมีสิทธิไม่จ่ายได้แต่ใช้การบริจาคตามสมัครใจทดแทน

วันนี้ (22 ส.ค.) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 30 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือและยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และประธานอนุกรรมการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพเขตเชียงใหม่ (อปสข.เชียงใหม่) เรื่องการแสดงความประสงค์ไมร่วมจ่าย 30 บาท ตามนโยบายเก็บเงินค่าธรรมเนียมร่วมจ่ายที่หน่วยบริการทุกครั้งที่รับการบริการครั้งละ 30 บาท ซึ่งรัฐบาลเตรียมที่จะนำมาใช้ในวันที่ 1 ก.ย.ที่จะถึงนี้

การเคลื่อนไหวดังกล่าวของกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพนั้นมีการนัดหมายดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ โดยทางกลุ่มจะรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติการประสงค์ไม่ร่วมจ่าย 30 บาทเมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ซึ่งสามารถทำได้ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ พ.ศ. 2555 วงเล็บที่ 21 ผู้ประสงค์ไม่ร่วมจ่ายค่าบริการ แต่จะใช้การบริจาคโดยสมัครใจแทน

พร้อมกันนี้ ทางกลุ่มฯ ได้ยื่นหนังสือพร้อมด้วยเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และรายชื่อผู้ประสงค์ไม่ร่วมจ่ายค่าบริการในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านนายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และประธาน อปสข.เชียงใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพเปิดเผยว่า การที่ทางกลุ่มฯ นำเสนอแนวทางประสงค์ไม่ร่วมจ่าย 30 บาทนั้น เนื่องจากเห็นว่าการนำแนวคิด 30 บาทกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายการเมืองที่ต้องการนำนโยบายที่เป็นที่รู้จักของพรรคการเมืองกลับมาใช้อีกครั้งโดยหวังผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ไม่ได้ตอบสนองการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพอย่างแท้จริง ขณะที่เหตุผลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ในการดำเนินนโยบายดังกล่าวก็ขาดความสมเหตุสมผล

โดยทางกลุ่มฯ ระบุว่า กรณีที่รัฐบาลระบุว่าการจัดเก็บเงิน 30 บาทจะถูกใช้ในการพัฒนาคุณภาพหน่วยบริการนั้น หากพิจารณาจากตัวเลขที่จัดเก็บได้จริงแล้วจะพบว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราจ่ายรายหัวที่รัฐต้องจัดสรรเข้าสู่ระบบ การจัดเก็บเงินดังกล่าวจึงเป็นภาระต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้งในการเก็บเงิน รวมทั้งการคัดแยกว่าผู้ป่วยรายใดเข้าข่ายที่จะต้องจัดเก็บเงิน 30 บาทหรือมีสิทธิได้รับการยกเว้น อีกทั้งการต้องแสดงตัวว่ามีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือไม่สามารถจ่ายเงิน 30 บาทได้นั้นยังถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย

ขณะที่กระบวนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสุขภาพนั้นมาจากงบประมาณผ่านค่าใช้จ่ายรายหัว ซึ่งเป็นแนวทางที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการร่วมจ่ายเงินดังกล่าวผ่านภาษีต่างๆ อยู่แล้ว แต่การจัดเก็บเงินโดยไม่ให้ความสำคัญต่อระบบค่าใช้จ่ายรายหัวเป็นการระทำที่ไม่ช่วยพัฒนาระบบประกันสุขภาพในระยะยาว นอกจากนี้ การอ้างว่าการจัดเก็บเงินจะเป็นการคัดกรองผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากการรักษาฟรีนั้น จากข้อมูลทั้งในสมัยที่มีการร่วมจ่าย 30 บาท กับตั้งแต่ปี 2550 ที่ไม่มีการร่วมจ่ายพบว่าไม่ได้มีความแตกต่างในด้านจำนวนมากนัก แต่การที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษามากขึ้นเป็นเพราะสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้มากขึ้นมากกว่า

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวคัดค้านโยบายดังกล่าวของรัฐบาล พร้อมทั้งจะใช้สิทธิด้วยการแจ้งความจำนงประสงค์ไม่ร่วมจ่าย 30 บาท แต่จะใช้การบริจาคตามความสมัครใจเป็นการทดแทน พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณานโยบายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าทิศทางการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในปัจจุบันนั้นเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว แต่การหันมาใช้การร่วมจ่าย 30 บาทจะมีผลเป็นเพียงการนำนโยบายประชานิยมที่พรรคการเมืองเคยใช้มาสร้างประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ระบบหลักประกันสุขภาพในระยะยาวอย่างแท้จริง




กำลังโหลดความคิดเห็น