ศรีสะเกษ - ตำรวจศรีสะเกษรวบแก๊งค้าบ้าชาวสปป.ลาว พร้อมเครือข่าย ได้ผู้ต้องหา 5 ราย เป็นชาวลาว 2 ราย ชาวไทย 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 14,000 เม็ด สารภาพต้องการนำเงินไปทำพาสปอร์ตให้ลูกเข้าประเทศไทย และ อ้างทำเป็นครั้งแรก ตร.ไม่ปักใจเชื่อ พร้อมขยายผลลากคามาดำเนินคดีทั้งเครือข่าย
วันนี้ ( 22 ส.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.วิเชียร สุขศิริ ผู้กำกับการ (ผกก.) กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ตำรวจจากกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเอเย่นต์ขายยาบ้าชาวสปป.ลาว พร้อมเครือข่าย จำนวน 5 คน และของกลางยาบ้า จำนวน 14,000 เม็ด
พ.ต.อ.วิเชียร สุขศิริ ผกก. กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อุบลราชธานี ได้ทำการจับกุมท้าวแก้ว อุดร อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นชาวสปป.ลาว พร้อมยาบ้าจำนวน 6 มัด ๆ ละ 2,000 เม็ด รวม 12,000 เม็ด ได้ในเขตพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และต่อมาสืบทราบว่า จะมีการนัดส่งมอบยาบ้าในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
ดังนั้น จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ได้รับทราบ จากนั้น จึงได้สั่งการให้ตน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำกำลังเข้าจับกุมเครือข่ายขายยาบ้า เพื่อขยายผลการจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมต้องหาได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสันธิติ หรือ อ้วน แสงวาโท อายุ 33 ปี ชาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ , นายสิทธิพงษ์ หรือ เก่ง สถานพงษ์ อายุ 28 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้มีการสั่งซื้อยาบ้ากับท้าวแก้ว อุดร จำนวน 6,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ บริษัท ขนส่งศรีสะเกษ จำกัด
จากนั้น ได้ขยายผลการจับกุม นายบุญเกื้อ หรือ แก่น จำปาศรี อายุ 30 ปี ชาว อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้สั่งซื้อยาบ้ากับท้าวแก้ว อุดร จำนวน 2,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้-โลตัส สาขา ศรีสะเกษ พร้อมของกลางยาบ้า และได้ขยายผลการจับกุม นางดวง แก้ววงกด ชาวสปป.ลาว ซึ่งเป็นภรรยาของ นายสันธิติ หรือ อ้วน แสงวาโท ที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว โดยสามารถจับกุม นางดวง ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณแยกนาตาล อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ท้าวแก้ว อุดร ซึ่งเป็นชาว สปป.ลาว ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนั้น มีอาชีพขายไอศกรีมอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้มีภรรยาเป็นชาวไทย เมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.ค.55 ที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับไปที่ประเทศสปป.ลาว และต้องการหาเงินไปทำพาสปอร์ตให้กับลูกชายของตน ซึ่งเป็นชาวสปป.ลาวเช่นกัน เพื่อให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องจากต้องใช้เงิน เป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีฐานะยากจน
จึงได้ไปปรึกษากับเพื่อนชาวลาวคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนดังกล่าว ได้แนะนำให้ทำหน้าที่รับส่งยาบ้า เพราะมีรายได้ดี จากนั้นจึงได้ทำตามที่เพื่อนแนะนำโดยได้รับเงินค่าจ้างในการส่งยาบ้า จำนวน 15,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด แม้กระทั่งเม็ดของยาบ้า ก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีสี หรือมีเม็ดลักษณะแบบไหน และเพิ่งส่งยาบ้า ครั้งนี้ เป็นครั้งแรก แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม ได้เสียก่อน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การแต่อย่างใด และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลติดตามเครือข่ายยาเสพติด เครือข่ายนี้ทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป