ตราด - นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดตราดส่อหลุดจากตำแหน่งถึง 4 คนหลังขาดคุณสมบัติ ทั้ง “นายก อบต.เกาะกูดถูกฟ้องล้มละลาย-ส.อบจ.เกาะกูดเป็นคู่สัญญา-อบจ.ใบเหลือง-คดีอาญา”
นายศรุชา พงศ์ภัทรานนท์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวว่าจะมีการเพิกถอนตำแหน่งนายก อบต.เกาะกูด นายเดชาธร จันทร์อบ เนื่องจากถูกกรมสรรพากรฟ้องล้มละลาย นายสุทัศน์ ทศดารา สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เกาะกูด เนื่องจากเป็นคู่สัญญากับ อบจ.ตราด ก่อนการเลือกตั้ง และการที่กรรมการเลือกตั้ง จ.ตราดมีข้อสรุปเสนอความคิดเห็นของ กกต. 5 คน เรื่องการร้องเรียนนายก ทต.น้ำเชี่ยว ซึ่งอาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่นั้น
โดยทั้ง 3 กรณีนั้น 2 กรณีแรกไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของทาง กกต.ตราด เป็นอำนาจของทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราดที่จะเป็นผู้เพิกถอน ส่วนกรณีการร้องเรียนนายก ทต.น้ำเชี่ยว มติของ กกต.ตราดที่ได้ข้อสรุปและข้อความคิดเห็นเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าผิดหรือไม่ผิด มตินี้จะส่งไปให้ กกต.ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกรรมการเลือกตั้งจังหวัดตราดจะมีข้อคิดเห็นเสนอไปให้ กกต.กลางได้พิจารณาตัดสินเอง
กกต.ตราดเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นความลับของทางราชการ ถ้าผิดจริง กกต.กลางจะสั่งการมาให้ดำเนินการภายหลัง ทั้งการจะให้ใบเหลืองหรือใบแดง ซึ่ง กกต.ตราดมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง
ด้าน นายสุทัศน์ ทศดารา สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เกาะกูด เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนว่าตนเป็นคู่สัญญากับ อบจ.ตราด ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามอยู่แล้ว โดยเรื่องนี้ตนยอมรับว่าเคยเป็นผู้รับเหมางานของ อบจ.ตราดจริง แต่ได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแล้วก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้งในช่วงกลางเดือนเมษายน 2555 ตนได้ลาออกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทาง อ.เกาะกูดได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดตราดให้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบ ซึ่งก็ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ไปแล้ว พร้อมนำเอกสารไปแสดงแล้ว โดยประธานกรรมการคือ นายทรงกลด พึ่งสอนรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.เกาะกูด ทั้งนี้ยังได้ระบุว่า หากไม่มีเจตนาก็อาจจะไม่มีความผิด
ทางด้าน นายทรงกลด สอนพึ่งรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.เกาะกูด จ.ตราด กล่าวว่า กรณีของนายสุทัศน์ ทศดารา ทางกรรมการได้เรียกมาชี้แจงและนำหลักฐานมาแสดงแล้ว ทางกรรมการได้ส่งเอกสารไปให้สำนักงานพัฒนาธุรกิจที่ดูแลในเรื่องทะเบียนพาณิชย์ แล้วพบว่า การลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทของนายสุทัศน์ ทศดารา มีผลในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งเป็นช่วงหลังการเลือกตั้งไปแล้ว
ทั้งนี้ ผลจากการสอบสวนจะเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยจะใช้เวลาในการจัดทำรายงานและข้อเท็จจริงจำนวน 30 วัน ส่วนกรณีของนายเดชาธรที่พบว่าเป็นบุคคลล้มละลายจากการฟ้องร้องของกรมสรรพากร ทางอำเภอได้แต่งตั้งให้ตนเป็นประธานกรรมการสอบสวนเป็นเรื่องและให้สรุปเสร็จใน 30 วัน
“ผมได้ให้กรรมการตรวจสอบส่งหนังสือไปสอบถามศาลล้มละลายกลางแล้ว และจะได้รับคำสั่งศาลภายใน 30 วัน และได้เชิญนายเดชาธร จันทร์อบ ให้มาสอบปากคำและให้นำหลักฐานมาให้คณะกรรมการภายใน 30 วัน จากนั้นจะได้มีการพิจารณาสอบสวนได้เสนอไป แต่โดยทั่วไปก็รับรู้กันแล้วเพียงแต่รอเอกสารยืนยันเท่านั้น และหากเป็นจริงก็จะถูกนายอำเภอเกาะกูดถอดถอนต่อไป”
ล่าสุดมีข่าวเปิดเผยจากแวดวงการเมืองท้องถิ่นว่า ในวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ศาลจังหวัดตราดได้นัดให้นายวิรัช วิทยากร สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เมือง ไปรับฟังคำพิจารณาพิพากษากรณีถูกนางสาวจุฑารัตน์ เรืองรัตนตรัย ผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องร้องคดีฉ้อโกง หากศาลตัดสินแพ้คดีและอาจมีโทษถึงจำคุกจะขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิก อบจ.ตราด และต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไปด้วย
นายศรุชา พงศ์ภัทรานนท์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวว่าจะมีการเพิกถอนตำแหน่งนายก อบต.เกาะกูด นายเดชาธร จันทร์อบ เนื่องจากถูกกรมสรรพากรฟ้องล้มละลาย นายสุทัศน์ ทศดารา สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เกาะกูด เนื่องจากเป็นคู่สัญญากับ อบจ.ตราด ก่อนการเลือกตั้ง และการที่กรรมการเลือกตั้ง จ.ตราดมีข้อสรุปเสนอความคิดเห็นของ กกต. 5 คน เรื่องการร้องเรียนนายก ทต.น้ำเชี่ยว ซึ่งอาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่นั้น
โดยทั้ง 3 กรณีนั้น 2 กรณีแรกไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของทาง กกต.ตราด เป็นอำนาจของทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราดที่จะเป็นผู้เพิกถอน ส่วนกรณีการร้องเรียนนายก ทต.น้ำเชี่ยว มติของ กกต.ตราดที่ได้ข้อสรุปและข้อความคิดเห็นเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าผิดหรือไม่ผิด มตินี้จะส่งไปให้ กกต.ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกรรมการเลือกตั้งจังหวัดตราดจะมีข้อคิดเห็นเสนอไปให้ กกต.กลางได้พิจารณาตัดสินเอง
กกต.ตราดเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นความลับของทางราชการ ถ้าผิดจริง กกต.กลางจะสั่งการมาให้ดำเนินการภายหลัง ทั้งการจะให้ใบเหลืองหรือใบแดง ซึ่ง กกต.ตราดมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง
ด้าน นายสุทัศน์ ทศดารา สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เกาะกูด เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนว่าตนเป็นคู่สัญญากับ อบจ.ตราด ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามอยู่แล้ว โดยเรื่องนี้ตนยอมรับว่าเคยเป็นผู้รับเหมางานของ อบจ.ตราดจริง แต่ได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแล้วก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้งในช่วงกลางเดือนเมษายน 2555 ตนได้ลาออกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทาง อ.เกาะกูดได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดตราดให้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบ ซึ่งก็ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ไปแล้ว พร้อมนำเอกสารไปแสดงแล้ว โดยประธานกรรมการคือ นายทรงกลด พึ่งสอนรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.เกาะกูด ทั้งนี้ยังได้ระบุว่า หากไม่มีเจตนาก็อาจจะไม่มีความผิด
ทางด้าน นายทรงกลด สอนพึ่งรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.เกาะกูด จ.ตราด กล่าวว่า กรณีของนายสุทัศน์ ทศดารา ทางกรรมการได้เรียกมาชี้แจงและนำหลักฐานมาแสดงแล้ว ทางกรรมการได้ส่งเอกสารไปให้สำนักงานพัฒนาธุรกิจที่ดูแลในเรื่องทะเบียนพาณิชย์ แล้วพบว่า การลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทของนายสุทัศน์ ทศดารา มีผลในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งเป็นช่วงหลังการเลือกตั้งไปแล้ว
ทั้งนี้ ผลจากการสอบสวนจะเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยจะใช้เวลาในการจัดทำรายงานและข้อเท็จจริงจำนวน 30 วัน ส่วนกรณีของนายเดชาธรที่พบว่าเป็นบุคคลล้มละลายจากการฟ้องร้องของกรมสรรพากร ทางอำเภอได้แต่งตั้งให้ตนเป็นประธานกรรมการสอบสวนเป็นเรื่องและให้สรุปเสร็จใน 30 วัน
“ผมได้ให้กรรมการตรวจสอบส่งหนังสือไปสอบถามศาลล้มละลายกลางแล้ว และจะได้รับคำสั่งศาลภายใน 30 วัน และได้เชิญนายเดชาธร จันทร์อบ ให้มาสอบปากคำและให้นำหลักฐานมาให้คณะกรรมการภายใน 30 วัน จากนั้นจะได้มีการพิจารณาสอบสวนได้เสนอไป แต่โดยทั่วไปก็รับรู้กันแล้วเพียงแต่รอเอกสารยืนยันเท่านั้น และหากเป็นจริงก็จะถูกนายอำเภอเกาะกูดถอดถอนต่อไป”
ล่าสุดมีข่าวเปิดเผยจากแวดวงการเมืองท้องถิ่นว่า ในวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ศาลจังหวัดตราดได้นัดให้นายวิรัช วิทยากร สมาชิก อบจ.ตราด เขต อ.เมือง ไปรับฟังคำพิจารณาพิพากษากรณีถูกนางสาวจุฑารัตน์ เรืองรัตนตรัย ผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องร้องคดีฉ้อโกง หากศาลตัดสินแพ้คดีและอาจมีโทษถึงจำคุกจะขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิก อบจ.ตราด และต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไปด้วย