ศรีสะเกษ -นโยบายเงินเดือน ป.ตรี 15,000 บาท พ่นพิษ นายกเล็กเมืองศรีสะเกษพร้อมชมรมนายกอบต.ศรีสะเกษ บุกยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ถึงรัฐบาล ระบุ อปท. เดือดร้อนหนัก มีรายได้ไม่เพียงพอจ่ายเงินเดือน-ค่าจ้างพนักงาน ลูกจ้าง วอนเร่งแก้ปัญหา จัดสรรงบฯ ชดเชยให้ อปท.ด่วน
วันนี้ (17 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ห้องประชุมศรีพฤทเทศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายฉัฐมงคล อังคสกลุเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายประวิทย์ จารุรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำโรง และ ประธานชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสะเกษ และ นายก อบต.จากหลายพื้นที่ใน จ.ศรีสะเกษ ได้เข้ายื่นหนังสือผ่าน นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ถึงรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีค่าใช้จ่ายเงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอื่น และค่าจ้างของพนักงาน ลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการปรับขึ้นค่าครองชีพให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นต่าง ๆ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เพราะท้องถิ่นไม่มีความสามารถที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวได้ เนื่องจากต้องนำเงินส่วนใหญ่ไปใช้ในการบริหารท้องถิ่น เพื่อความสุขของประชาชนในที่นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การซ่อมแซมถนน เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยยังชีพคนพิการ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทางหน่วยงานท้องถิ่นได้แบ่งเบาภาระของทางรัฐบาลมาโดยตลอด
นายฉัฐมงคล กล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนและคณะได้เดินทางมายื่นหนังสือผ่าน นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลได้ให้การชดเชยผลพวงที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล ขอวอนให้รัฐบาลได้จัดสรรเงินรายได้ ทั้งในรูปแบบเงินอุดหนุนทั่วไป และเงินภาษีอากรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภารกิจ และค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่ม
เนื่องจากในขณะนี้พบว่า มีองค์การบริหารส่วนตำบลหลายแห่งกำลังประสบปัญหา ไม่สามารถที่จะจ่ายเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ ให้กับพนักงาน หรือลูกจ้างได้ เนื่องจากมีเงินรายได้ไม่เพียงพอ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ทำงานสนองนโยบายของรัฐบาลมาโดยตลอด แต่การที่จะทำงานสนองนโยบายรัฐบาลได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น หน่วยงานท้องถิ่นต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลด้วย ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายนี้ขึ้นมา เช่นเดียวกัน