พระนครศรีอยุธยา - "ดีเอสไอ" พร้อมตำรวจพระนครศรีอยุธยา บุกตรวจสอบคลังเก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าว เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ เผยเตรียมตรวจโกดังทั้ง 3 แห่งของอยุธยาที่วังน้อย ภาชี บางไทร
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่คลังสินค้ากลาง บจก.พี พี แอนด์ พี อินสเปคเตอร์ ริมถนนพหลโยธิน กม.75 เลขที่ 88 ม.1 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าสถานีตำรวจที่มีพื้นที่รับจำนำข้าวร่วมกับ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบช.สำนักคดีความมั่นคงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวิมล สายสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ พ.ต.ท.ธเนตร์ นพคุณ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 2 คดีความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสื่อมวลชนกว่า 200 คนได้เข้าตรวจคลังกลางเก็บข้าวสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ อคส. คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด กรมการค้าภายใน และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวนำตรวจ
เมื่อไปถึงโกดังคลังสินค้า ซึ่งมีขนาดใหญ่แบ่งเป็นโกดัง 5 โกดัง โดยเริ่มทำการตรวจที่โกดังหลังที่ 5 พบว่าประตูโกดังปิดอย่างสนิท โดยต้องทำการไขกุญแจที่ล็อตประตูถึง 3 ดอกมีผู้ถือกุญแจ คือผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว เจ้าหน้าที่ อคส. และตัวแทนคณะอนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากจังหวัด ทำการเปิด เมื่อไขกุญแจกออกต้องโซ่ประตูขึ้น พบว่าภายในโกดัง เป็นข้าวสารขาว 5 เปอร์เซ็นต์ บรรจุอยู่ในกระสอบอยู่เต็มโกดัง
ภายในโกดังทั้ง 5 ได้เก็บข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554-2555 และการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2555 โดยแยกข้าวเปลือกนาปีเอาไว้ในโกดังที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 รวมข้าวสาร 316,000 กระสอบ ข้าวเปลือกนาปรัง เก็บไว้ที่โกดังที่ 1A ที่5 รวมข้าวสาร 317,686 กระสอบ
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันตรวจคลังกลางเก็บข้าวสารที่คลังนี้เป็นจุดแรก เพื่อมาติดตามตามยอดที่ได้แจ้งไว้กับ อคส. ซึ่งการตรวจจะต้องใช้เวลาในการตรวจพอสมควรจึงจะสรุปได้ว่าปริมาณข้าว ตรงกับการแจ้งยอดไว้หรือไม่ หากปริมาณหายไป จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบว่าที่คลังเก็บข้าวแห่งนี้มีระบบการป้องกันด้วยการติดกล้องวงจรปิด
นอกจากการตรวจปริมาณข้าว ยังมีเจ้าหน้าที่ตรวจเชิงคุณภาพของข้าวและมีการเอ็กซ์เรย์ สำหรับที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีโกดังที่เก็บข้าวสารอยู่ 3 แห่ง ที่ อ.วังน้อย อ.ภาชี และ อ.บางไทร ซึ่งจะต้องมีการไปตรวจสอบ ซึ่งการตรวจจะต้องทำด้วยความโปร่งใส ยุติธรรมตรวจสอบได้ เป็นการป้องกันการทุจริต ตามที่รัฐบาลได้ให้นโยบายในการรับจำนำข้าว ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีวัตถุประสงค์หลักที่จะช่วยเหลือและเป็นประโยชน์กับเกษตรกรเป็นการยกระดับราคาข้าว ให้สูงขึ้นให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
สำหรับการตรวจวันนี้เท่าที่ดูขบวนการเก็บข้าวสาร การเรียงกระสอบ การแยกคุณภาพข้าวสาร เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีระบบป้องกันการถูกสัตว์เข้ากินข้าวสาร เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ