ราชบุรี - เรือนจำกลางราชบุรี ปล่อยผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 225 คน เพื่อเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นได้กลับตัวเป็นพลเมืองดี ญาติแห่มารับคึกคัก ต่างสวมกอดญาติพี่น้องของตนเองด้วยความดีใจ และตื้นตันใจที่ได้มีอิสรภาพด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (15 ส.ค.) นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี เป็นประธานปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เป็นชาย 193 คน หญิง 32 คน รวม 225 คน ในโอกาสพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร วันที่ 28 กรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัว ซึ่งในการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ ได้มีพระมหากรุณาธิคุณให้ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความผิดเล็กน้อย ผู้เจ็บป่วย พิการ หรือทุพพลภาพ และผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงคนชรา เพื่อเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นได้กลับตัวเป็นพลเมืองดี
นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ปล่อยตัวเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาการอภัยโทษ มีรายละเอียดมากมาย แต่สำหรับผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยในวันนี้ ทั้งหมดเป็นโทษเล็กน้อย กำหนดโทษไม่เกิน 1 ปี และเป็นผู้กระทำความผิดครั้งแรก จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณปล่อยตัว โดยยอดทั้งหมดรวม 225 คน แยกเป็นชาย จำนวน 193 คน หญิง 32 คน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้มีหนังสือแจ้งให้เรือนจำทัณสถานกักขังจัดพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์
โดยให้จัดพร้อมกันในวันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2555 เวลา 09.30 น.แต่ทางเรือนจำกลางราชบุรีได้ให้เจ้าหน้าที่สำรวจรายละเอียดผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกแดนที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ จึงได้จัดพิธีดังกล่าวเป็นเรือนจำแรก ซึ่งคาดว่า จะมีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวประมาณ 15,000 คน โดยกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน องค์กรต่างๆ ได้ร่วมกันจัดเตรียมความพร้อมให้แก่บุคคลดังกล่าว ทั้งให้การศึกษา อบรมพัฒนาจิตใจ และการฝึกทักษะอาชีพ การแนะแนวทางการประกอบอาชีพ
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอกอย่างปกติ มีอาชีพสุจริต ไม่เป็นภาระ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม สามารถพึ่งพาตนเอง และหาเลี้ยงครอบครัวได้ โดยเรือนจำได้นิมนต์พระครูพิทักษ์ถาวรเขต เจ้าคณะตำบลน้ำพุห้วยไผ่ เจ้าอาวาสวัดหนองกลางดง มาประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมมอบเงินคนละ 500 บาท เป็นขวัญถุงแก่ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศบริเวณหน้าเรือนจำตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีญาติของผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษต่างอุ้มลูกจูงหลานเดินทางมานั่งรออยู่อย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอเวลาการปล่อยตัว โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวผู้ต้องราชทัณฑ์หญิงชุดแรกเดินออกมาจากห้องแดนหญิง ต่างสวมกอดญาติพี่น้องของตนเองด้วยความดีใจ และตื้นตันใจที่ได้มีอิสรภาพด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
