กาญจนบุรี - หนุ่มทองผ่าภูมิน้ำใจงาม เก็บเงินได้ 7 หมื่นตกอยู่หน้าตลาดสดทองผาภูมิ กาญจนบุรี นำส่งตำรวจคืนให้เจ้าของเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน แถมปฏิเสธที่จะรับเงินสินน้ำใจด้วย บอกเพียงแค่ได้นำเงินมาคืนให้แก่เจ้าของก็สุดดีใจแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุทิน พรมศรี พงส.(สบ 3) สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ บูรณสมบัติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.ห้วยเขย่ง ว่า ทำเงิน 7 หมื่นบาท หล่นหายบริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
หลังจากรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.สุทินได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.สมเกียรติ วิเศษสิงห์ สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ เพื่อให้ลงพื้นที่สืบสวนหาเงินดังกล่าวบริเวณที่เกิดเหตุ โดยนายสมศักดิ์ ให้การว่า ตนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลห้วยเขย่ง และทำสวนยางพารา ในวันนี้ ตนมาเบิกเงินค่าขายยางพาราจากธนาคารเพื่อไปจ่ายให้คนงาน และซื้อของกลับไปไร่ โดยใส่ในกระเป๋าหิ้ว ซึ่งไม่ได้ปิดซิป เมื่อตนจะหยิบเงินดังกล่าวเพื่อซื้อของบริเวณร้านค้า ก็ไม่พบเงินแล้ว เดินหาตามเส้นทางเดินก็ไม่พบไม่รู้ว่าตกหายไปตรงไหน ดังนั้น ตนจึงมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยตามหาเงินให้
หลังจากได้รับการประสานงาน พ.ต.ท.สมเกียรติ จึงนำกำลังตำรวจสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนสามารถสืบทราบว่า หลังเกิดเหตุเงินตกบนถนน พบว่ามีคนพบเงินดังกล่าวคือ นายจรัล ทับทิมแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/20 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ซึ่งมีอาชีพค้าขายที่บ้านท่าแพ ข้างที่เกิดเหตุ เป็นผู้เก็บเงินได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณตลาดสด
ส่วนอีกด้านที่ สภ.ทองผาภูมิ นายจรัล ได้นำเงินจำนวน 7 หมื่นบาท เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 70 ใบเดินทางมาที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อมาส่งมอบแก่ตำรวจสืบหาเจ้าของเงิน ซึ่งก็พบกับนายสมศักดิ์ ที่มาแจ้งความเงินหาย และรอการสอบสวนจากพนักงานสอบพอดี ดังนั้น ทาง พ.ต.ท.สุทิน จึงให้นายจรัลทำการคืนเงินให้แก่นายสมศักดิ์
โดยนายจรัล ทับทิมแก้ว หนุ่มที่มีน้ำใจดีได้เล่าให้ตำรวจฟังว่า ตนขับจักรยานยนต์มาที่ตลาดสดเพื่อมาซื้อของตามปกติ และเมื่อมาถึงที่บริเวณหน้าตลาด พบเงินปึกหนึ่งตกอยู่ที่พื้นทางเดินหน้าตลาดสดทองผาภูมิใกล้ป้อมตำรวจทองผาภูมิ ตนจึงได้นำเงินดังกล่าวไปยังโรงพักเพื่อแจ้งความ เผื่อหากใครเป็นเจ้าของเงินที่ตกอยู่มาแจ้งความของหายก็ให้ทางตำรวจคืนเงินแก่เจ้าของไป
หลังจากส่งมอบเงินแล้ว นายสมศักดิ์จึงได้ให้เงินค่าตอบแทนสำหรับการทำความดีให้แก่นายจรัล จำนวน 3 พันบาท แต่นายจรัลปฎิเสธไม่รับเงินดังกล่าว ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้กล่าวขอบคุณนายจรัล โดยนายจรัลตอบกลับไปยังนายสมศักดิ์ว่า แค่นำเงินมาคืนให้เจ้าของที่ทำตกได้ก็ดีใจแล้ว แค่นี้ตนก็พอใจมากแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุทิน พรมศรี พงส.(สบ 3) สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ บูรณสมบัติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.ห้วยเขย่ง ว่า ทำเงิน 7 หมื่นบาท หล่นหายบริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
หลังจากรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.สุทินได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.สมเกียรติ วิเศษสิงห์ สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ เพื่อให้ลงพื้นที่สืบสวนหาเงินดังกล่าวบริเวณที่เกิดเหตุ โดยนายสมศักดิ์ ให้การว่า ตนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลห้วยเขย่ง และทำสวนยางพารา ในวันนี้ ตนมาเบิกเงินค่าขายยางพาราจากธนาคารเพื่อไปจ่ายให้คนงาน และซื้อของกลับไปไร่ โดยใส่ในกระเป๋าหิ้ว ซึ่งไม่ได้ปิดซิป เมื่อตนจะหยิบเงินดังกล่าวเพื่อซื้อของบริเวณร้านค้า ก็ไม่พบเงินแล้ว เดินหาตามเส้นทางเดินก็ไม่พบไม่รู้ว่าตกหายไปตรงไหน ดังนั้น ตนจึงมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยตามหาเงินให้
หลังจากได้รับการประสานงาน พ.ต.ท.สมเกียรติ จึงนำกำลังตำรวจสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนสามารถสืบทราบว่า หลังเกิดเหตุเงินตกบนถนน พบว่ามีคนพบเงินดังกล่าวคือ นายจรัล ทับทิมแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/20 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ซึ่งมีอาชีพค้าขายที่บ้านท่าแพ ข้างที่เกิดเหตุ เป็นผู้เก็บเงินได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณตลาดสด
ส่วนอีกด้านที่ สภ.ทองผาภูมิ นายจรัล ได้นำเงินจำนวน 7 หมื่นบาท เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 70 ใบเดินทางมาที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อมาส่งมอบแก่ตำรวจสืบหาเจ้าของเงิน ซึ่งก็พบกับนายสมศักดิ์ ที่มาแจ้งความเงินหาย และรอการสอบสวนจากพนักงานสอบพอดี ดังนั้น ทาง พ.ต.ท.สุทิน จึงให้นายจรัลทำการคืนเงินให้แก่นายสมศักดิ์
โดยนายจรัล ทับทิมแก้ว หนุ่มที่มีน้ำใจดีได้เล่าให้ตำรวจฟังว่า ตนขับจักรยานยนต์มาที่ตลาดสดเพื่อมาซื้อของตามปกติ และเมื่อมาถึงที่บริเวณหน้าตลาด พบเงินปึกหนึ่งตกอยู่ที่พื้นทางเดินหน้าตลาดสดทองผาภูมิใกล้ป้อมตำรวจทองผาภูมิ ตนจึงได้นำเงินดังกล่าวไปยังโรงพักเพื่อแจ้งความ เผื่อหากใครเป็นเจ้าของเงินที่ตกอยู่มาแจ้งความของหายก็ให้ทางตำรวจคืนเงินแก่เจ้าของไป
หลังจากส่งมอบเงินแล้ว นายสมศักดิ์จึงได้ให้เงินค่าตอบแทนสำหรับการทำความดีให้แก่นายจรัล จำนวน 3 พันบาท แต่นายจรัลปฎิเสธไม่รับเงินดังกล่าว ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้กล่าวขอบคุณนายจรัล โดยนายจรัลตอบกลับไปยังนายสมศักดิ์ว่า แค่นำเงินมาคืนให้เจ้าของที่ทำตกได้ก็ดีใจแล้ว แค่นี้ตนก็พอใจมากแล้ว
