ศูนย์ข่าวศรีราชา - 2 คู่หูแก๊งจัดหนัก ลอบเข้าค่ายทหารเรือ พื้นที่ปลอดตำรวจ แบ่งสายงานลักทรัพย์-ค้ายานรกนานแรมปี สุดท้าย ตำรวจสืบสวนสัตหีบ ตามจับกุมได้ พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ได้จากการโจรกรรมกว่า 50 รายการ และยาบ้า 1,000 เม็ด โดยมีผู้เสียหายในคดีลักทรัพย์ นำหลักฐานเข้ายัดข้อหาเพิ่ม
พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี และกำลังตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ และค้ายาเสพติด
ประกอบด้วย นายสวัสดิ์ หรือน้อย คำพันธ์ อายุ 29 ปี (เสื้อดำ) ชาวจังหวัดอุดรธานี ผู้ต้องในคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ทองคำรูปพรรณ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของอื่นๆ รวม 59 รายการ และนายศราวุธ หรือก๊อต เชาว์โคราช อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดระยอง ผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า การจับกุม 2 ผู้ต้องหา ซึ่งมีฉายาแก๊งจัดหนัก และยังเป็นคู่หูที่ก่อเหตุลักทรัพย์ และลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่บ้านพักของทางราชการกองทัพเรือในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากช่วงกลางดึกของวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสวัสดิ์ ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ได้ก่อเหตุงัดบ้านของนายทหารเรือคนหนึ่ง ซึ่งพักอยู่ที่แฟลตส่วนกลางกองทัพเรือ ได้ทรัพย์สินหลายรายการ ก่อนจะติดตามจับกุมตัวไว้ได้ จากการที่มีผู้จดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง
จากการสอบสวน ยังสามารถขยายผลจับกุม นายศราวุธ หรือก๊อต เพื่อนร่วมแก๊งซึ่งมีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้า ได้ที่บริเวณหน้าทางเข้าวัดทรงเมตตา ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนำยาบ้า 1,000 เม็ด ไปส่งให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นคู่หูที่แยกกันลงมือก่อเหตุใน 2 รูปแบบ คือ ลักทรัพย์ และค้ายาบ้า โดยส่วนใหญ่จะลักลอบเข้าไปปฏิบัติการภายในค่ายทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้การทำงานสะดวก ก่อนจะนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่ตามสถานบริการ และสถานบันเทิงในเมืองพัทยา
ในส่วนของคดีลักทรัพย์ ล่าสุด ได้มีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และครอบครัวทหารเรือ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีแล้วหลายราย
