บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์พบผู้ป่วยด้วยโรคฉี่หนูแล้ว 122 ราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่มีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น สสจ.เตือนชาวนาก่อนลงลุยน้ำทำนา หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน ควรสวมรองเท้าบูตหรือเครื่องป้องกันอย่างมิดชิด
วันนี้ (9 ส.ค.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ เผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคฉี่หนู หรือเลปโตสไปโรซิส ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยด้วยโรคฉี่หนูรวม 122 ราย แบ่งเป็นชาย 99 ราย หญิง 23 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 55-64 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุระหว่าง 45-54 ปี ส่วนกลุ่มอาชีพที่พบมีผู้ป่วยมากที่สุดคือเกษตรกร 79 ราย รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง และอาชีพอื่นๆ ตามลำดับ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าปีที่ผ่านมามีผู้ป่วย 56 ราย และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตด้วย 1 ราย
นพ.สมพงษ์กล่าวว่า พื้นที่ที่พบมีการแพร่ระบาดมากที่สุดคือ อ.แคนดง รองลงมาคือ อ.โนนสุวรรณ, นาโพธิ์, บ้านใหม่ไชยพจน์ และอำเภออื่นๆ ตามลำดับ แต่มีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น เพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนและเกษตรกรลงไถหว่านปักดำข้าว เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงแจ้งเตือนเกษตรกรที่ต้องลงแช่น้ำเป็นเวลานาน หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อน่อง ตาแดง ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน หากล่าช้าอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นไตวายเสียชีวิตได้
ส่วนวิธีป้องกันเบื้องต้น เกษตรกรควรสวมใส่รองเท้าบูต หรือเครื่องป้องกันเมื่อลงแช่น้ำ หลังขึ้นจากน้ำให้รีบล้างมือล้างเท้าด้วยสบู่ให้สะอาด โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกาย เนื่องจากโรคฉี่หนูเกิดจากการสัมผัสปัสสาวะของสัตว์โดยตรง หรือติดโดยทางอ้อมจากแหล่งน้ำตามทุ่งนา และบริเวณที่มีน้ำขัง
