อุบลราชธานี - ฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาลส่งผลให้นาข้าวจังหวัดอุบลราชธานีเริ่มเหลือง มีหญ้าขึ้นเพราะขาดน้ำมานานนับเดือน ชาวนาระบุน้ำฝนปีนี้น้อยในรอบหลายปี หวั่นถ้าฝนไม่ตกปลายเดือน ส.ค.นี้ ต้นข้าวจะไม่โตเต็มที่ ด้าน ปภ.ยันต้นข้าวยังทนได้ ให้รอปลายเดือนจะมีฝนตกต่อเนื่องจากอิทธิพลพายุพัดผ่านประเทศไทย ขณะที่เทศบาลฯ บุณฑริกทำพนังกั้นลำน้ำโดมกันตลิ่งพังจากน้ำหลาก
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง โดยนายทวีศักดิ์ โคตรปัญญา ชาวนาบ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เล่าว่า ต้นข้าวขาดน้ำมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพราะมีปริมาณฝนตกน้อยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีแต่ต้นหญ้าขึ้นแซมต้นข้าวเต็มไปหมด จึงตัดสินใจไถนาข้าวบางส่วนออก แล้วนำต้นกล้ามาปลูกใหม่
โดยใช้วิธีสูบน้ำบ่อที่มีไม่มากมาหล่อเลี้ยง และหากฝนยังทิ้งช่วงจะทำให้ต้นข้าวโตไม่เต็มที่ ก็คงได้รับผลกระทบอีก หลังจากปีที่แล้วพื้นที่ถูกน้ำไหลท่วมจนเก็บเกี่ยวไม่ได้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ด้านนายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน แต่ต้นข้าวยังพอทนได้ เพราะมีฝนตกลงมาบ้างแม้มีปริมาณไม่มากเท่ากับทุกปี แต่ปลายเดือนสิงหาคมนี้จะมีปริมาณฝนหนาแน่นขึ้นจากอิทธิพลของพายุที่จะพัดเข้าประเทศไทย
สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 12 แห่ง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 73% เมื่อเทียบกับระดับการเก็บกัก ส่วนเขื่อนสิรินธรมีปริมาณน้ำ 48% ของความจุ
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ผู้รับเหมาก่อสร้างพนังกั้นน้ำกันตลิ่งพังในลำน้ำโดม นำหินภูเขาบดอัดเป็นพนังกั้นลำน้ำในเขตเทศบาลตำบลบุณฑริก อำเภอบุณฑริก ความยาวประมาณ 500 เมตร เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งพังทั้งสองฝั่ง โดยได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 50% ด้วยงบ ประมาณ 22 ล้านบาทเศษ
สำหรับลำน้ำโดมมีความยาวประมาณ 150 กิโลเมตร มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาพนมดงรักไหลผ่านพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานีตอนใต้ ก่อนไหลมารวมกับแม่น้ำมูลที่ อ.พิบูลมังสาหาร และปีที่ผ่านมาลำน้ำโดมได้ไหลท่วมพื้นที่ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำและพื้นที่เกษตรกรรมเป็นบริเวณกว้างในอำเภอบุณฑริก เดชอุดม นาเยีย และพิบูลมังสาหาร
นอกจากนี้ น้ำยังได้กัดเซาะตามตลิ่งในเขตเทศบาลตำบลบุณฑริกจนดินเกิดการทรุดตัว จึงของบประมาณก่อสร้างพนังกันตลิ่งพัง ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำโดมดังกล่าว