ตราด - สมาคมอนุรักษ์ฯ ตราด ออกโรงดัน จ.ตราด เปิดเวที “สานเสวนา ประติมากรรมช้าง : เรือช้าง” หลังกลุ่มประชาชน ภาคเอกชน คัดค้านอย่างหนัก
วันนี้ (7 ส.ค.) นายสมเกียรติ สมรรถการ นายกสมาคมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม จ.ตราด กล่าวว่า ตามที่จังหวัดตราด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชนหลายองค์กร จัดทำโครงการประติมากรรมช้าง และเรือรบหลวงช้างใต้ทะเลตราด เพื่อการพัฒนาจังหวัด โดยเน้นเป้าหมายในการท่องเที่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ บริเวณทะเลอ่าว จังหวัดตราดนั้น
โครงการดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และควรได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนจากทุกภาคส่วน เนื่องจากทั้งสองโครงการ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งจากองค์กร และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับวิธีการ และกระบวนการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นความคิดเห็นที่เป็นเหตุผล ทั้งด้านวิชาการ ด้านความรู้สึกส่วนตน และอื่นๆ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีผลต่อความคิดเห็นของคนตราดค่อนข้างมาก ทั้งในส่วนที่เห็นควรสนับสนุนในวิธีการ และคัดค้านในวิธีการ
“ผมมองว่า เพื่อยุติความขัดแย้ง สมาคมพิจารณาเห็นควรให้จังหวัดตราดได้จัดทำ หรือมอบหมายให้องค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือหลายองค์กร ร่วมกันจัดการสานเสวนาเรื่อง “ประติมากรรมช้าง และเรือรบหลวงช้างใต้ทะเลตราด” การสานเสวนาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้สนใจ องค์กรต่างๆ นักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และผู้นำเสนอโครงการ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ เป็นการรับฟังที่ไม่มีการหักล้างความคิดเห็นของผู้อื่น และไม่ต้องลงมติ ทั้งนี้ จะช่วยให้เกิดประโยชน์แก่โครงการ และยุติปัญหาความขัดแย้ง ทำให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ปราศจากความขัดแย้ง” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา โครงการทั้ง 2 โครงการ ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลน้อยมาก โดยเฉพาะสื่อมวลชนท้องถิ่น ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือถึงสื่อมวลชนท้องถิ่น ทั้งสิ่งพิมพ์,วิทยุ และเคเบิลทีวี เพื่อให้มาร่วมงานสานเสวนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นในเวที เพื่อกระจายสู่ประชาชนชาวตราดจะได้เกิดความเข้าใจ ส่วนจะเห็นด้วย หรือไม่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดตราดจะดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางจังหวัดให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
ด้านนายสมโภชน์ วาสุกรี เจ้าของสถานีวิทยุ และกองบรรณาธิการสาสน์เมืองตราด กล่าวในที่ประชุมสื่อมวลชน จ.ตราด หลังจังหวัดมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัด ผู้ช่วยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด และนายธิชา รุ่งเรืองกนกกุล ผู้ผลิตประติมากรรมช้างมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน ก่อนการเปิดตัวโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2555 ว่าทางจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องโครงการประติมากรรมช้าง ไม่เคยได้ให้ความสำคัญสื่อมวลชนท้องถิ่น และความรู้สึกของประชาชนชาวตราด คิดจะนำอะไรมาจมในทะเลก็เอามาโดยไม่เคยได้บอกได้กล่าวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำแบบยัดเยียด
ทางที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไรไม่ต้องบอกแต่ทุกคนรู้อยู่แล้ว อีกทั้งสื่อมวลชนหลายแขนงก็ยังไม่รู้ความเป็นมา จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมา และสร้างความสนับสนให้แก่สื่อและประชาชน อะไรคือ ประติมากรรมช้าง อะไรคือ เรือหลวงช้าง ที่จะนำไปจมในทะเล มันสับสนไปหมด นี่คือปัญหา ครั้งต่อไปหากจะทำงานต้องบอกสื่อก่อนจะได้ร่วมกันคิด และขณะที่ประชาชนใน จ.ตราด ได้แสดงความคิดเห็นผ่านระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก โจมตีโครงการนี้อย่างมากว่าไปรบกวนระบบนิเวศไหม ทำลายระบบนิเวศไหม และล่าสุด มีการล่ารายชื่อประชาชนชาวตราดเพื่อคัดค้านโครงการทั้ง 2 โครงการ และจะนำเสนอให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด และผู้เกี่ยวข้องรับทราบความคิดเห็นต่อไป
วันนี้ (7 ส.ค.) นายสมเกียรติ สมรรถการ นายกสมาคมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม จ.ตราด กล่าวว่า ตามที่จังหวัดตราด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชนหลายองค์กร จัดทำโครงการประติมากรรมช้าง และเรือรบหลวงช้างใต้ทะเลตราด เพื่อการพัฒนาจังหวัด โดยเน้นเป้าหมายในการท่องเที่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ บริเวณทะเลอ่าว จังหวัดตราดนั้น
โครงการดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และควรได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนจากทุกภาคส่วน เนื่องจากทั้งสองโครงการ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งจากองค์กร และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับวิธีการ และกระบวนการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นความคิดเห็นที่เป็นเหตุผล ทั้งด้านวิชาการ ด้านความรู้สึกส่วนตน และอื่นๆ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีผลต่อความคิดเห็นของคนตราดค่อนข้างมาก ทั้งในส่วนที่เห็นควรสนับสนุนในวิธีการ และคัดค้านในวิธีการ
“ผมมองว่า เพื่อยุติความขัดแย้ง สมาคมพิจารณาเห็นควรให้จังหวัดตราดได้จัดทำ หรือมอบหมายให้องค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือหลายองค์กร ร่วมกันจัดการสานเสวนาเรื่อง “ประติมากรรมช้าง และเรือรบหลวงช้างใต้ทะเลตราด” การสานเสวนาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้สนใจ องค์กรต่างๆ นักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และผู้นำเสนอโครงการ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ เป็นการรับฟังที่ไม่มีการหักล้างความคิดเห็นของผู้อื่น และไม่ต้องลงมติ ทั้งนี้ จะช่วยให้เกิดประโยชน์แก่โครงการ และยุติปัญหาความขัดแย้ง ทำให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ปราศจากความขัดแย้ง” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา โครงการทั้ง 2 โครงการ ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลน้อยมาก โดยเฉพาะสื่อมวลชนท้องถิ่น ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือถึงสื่อมวลชนท้องถิ่น ทั้งสิ่งพิมพ์,วิทยุ และเคเบิลทีวี เพื่อให้มาร่วมงานสานเสวนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นในเวที เพื่อกระจายสู่ประชาชนชาวตราดจะได้เกิดความเข้าใจ ส่วนจะเห็นด้วย หรือไม่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดตราดจะดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางจังหวัดให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
ด้านนายสมโภชน์ วาสุกรี เจ้าของสถานีวิทยุ และกองบรรณาธิการสาสน์เมืองตราด กล่าวในที่ประชุมสื่อมวลชน จ.ตราด หลังจังหวัดมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัด ผู้ช่วยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด และนายธิชา รุ่งเรืองกนกกุล ผู้ผลิตประติมากรรมช้างมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน ก่อนการเปิดตัวโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2555 ว่าทางจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องโครงการประติมากรรมช้าง ไม่เคยได้ให้ความสำคัญสื่อมวลชนท้องถิ่น และความรู้สึกของประชาชนชาวตราด คิดจะนำอะไรมาจมในทะเลก็เอามาโดยไม่เคยได้บอกได้กล่าวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำแบบยัดเยียด
ทางที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไรไม่ต้องบอกแต่ทุกคนรู้อยู่แล้ว อีกทั้งสื่อมวลชนหลายแขนงก็ยังไม่รู้ความเป็นมา จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมา และสร้างความสนับสนให้แก่สื่อและประชาชน อะไรคือ ประติมากรรมช้าง อะไรคือ เรือหลวงช้าง ที่จะนำไปจมในทะเล มันสับสนไปหมด นี่คือปัญหา ครั้งต่อไปหากจะทำงานต้องบอกสื่อก่อนจะได้ร่วมกันคิด และขณะที่ประชาชนใน จ.ตราด ได้แสดงความคิดเห็นผ่านระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก โจมตีโครงการนี้อย่างมากว่าไปรบกวนระบบนิเวศไหม ทำลายระบบนิเวศไหม และล่าสุด มีการล่ารายชื่อประชาชนชาวตราดเพื่อคัดค้านโครงการทั้ง 2 โครงการ และจะนำเสนอให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด และผู้เกี่ยวข้องรับทราบความคิดเห็นต่อไป
