ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ก.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย เรื่องการเสริมสร้างสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ระงับเหตุเบื้องต้น ให้มีความรู้ความสามารถเบื้องต้นในการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยทางรังสี ได้อย่างถูกต้อง และถูกวิธี
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมลีลาวดี 2 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ได้มีการทำพิธีทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย เรื่องการเสริมสร้างสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ระงับเหตุเบื้องต้น ให้มีความรู้ความสามารถเบื้องต้นในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางรังสี ได้อย่างถูกต้อง และถูกวิธี ให้แก่เจ้าหน้าที่พยาบาลเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปให้ความรู้ ช่วยเหลือ และบรรเทาให้แก่ผู้ที่ได้รับรังสีได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย นายแพทย์สมเกียรติ บวรเสรีไผท รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ น.ส.กนกกาญจน์ วงษ์พสุเสถียร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ และนายสมบุญ จิรชาญชัย ผู้อำนวยการกลุ่มเตรียมความพร้อมประสานงานกรณีฉุกเฉินทางรังสี ร่วมลงนามในครั้งนี้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เปิดเผยว่า เนื่องจากในขณะนี้ ประเทศไทยเตรียมจะเข้าสู่สมาคมอาเซียน การขนส่งกัมมันตภาพรังสีอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย เป็นแหล่งอุตสาหกรรม และการส่งออกที่สำคัญของประเทศ มีการใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นจำนวนมาก ทั้งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เป็นต้น
ดังนั้น ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงอยากจะฝึกฝนให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ที่มีความรู้ความเชียวชาญในด้านนี้อยู่แล้ว มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเครือข่ายของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และจะพยายามขยายเครือข่ายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยอีกด้วย
