พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา สกัดจับโจ๋ควงเมียซิ่งรถยนต์เก๋งใช้สัญลักษณ์ตราโล่ตำรวจติดที่กระจังหน้า พร้อมแปะสติกเกอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระเวนขายยาบ้า ผู้ต้องหารับสารภาพ นำยาบ้าไปขายให้ลูกค้าย่านเกาะเรียน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (6 ส.ค.) ขณะที่ ร.ต.ต.อัฐพร สุขญาณกิจ รองสวป. สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังตรวจท้องที่ไปถึงหน้าตลาดเจ้าพรหม ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา พบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 5498 พระนครศรีอยุธยา ที่กระจังหน้ารถเหนือกันชน ติดตราโล่สัญลักษณ์ตำรวจ และที่กระจกรถด้านขวาติดสติกเกอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุด ปรากฏว่าคนขับได้เร่งเครื่องเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถเข้าขวาง รถของคนร้ายถอยหลังไปชนรถตำรวจ และรถจักรยานยนต์ของประชาชนจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ แต่คนร้ายยังไม่ยอมจำนน พยายามจะหลบหนีอีก
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่ยางล้อหน้า และล้อหลังขวา จึงสามารถจับกุมได้ ทราบชื่อคนขับว่า นายสมศักดิ์ วนิชเพียรเลิศ อายุ 29 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 96/3 ม.1 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และ น.ส.ปวีณา วนิชเพียรเลิศ อายุ 21 ปี ภรรยานั่งอยู่ในรถ ตรวจค้นในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวนายสมศักดิ์ ไปตรวจค้นที่บ้านเช่าเลขที่ 68/67 ม.1 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา พบยาบ้า 300 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห้องพัก รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้านเช่น โทรทัศน์สี 52 นิ้ว เครื่องเสียง และคอมพิวเตอร์
สอบสวนนายสมศักดิ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าของกลางจะนำไปขายให้แก่ลูกค้าในย่าน ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนสติกเกอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตราโล่ตำรวจติดรถเอาไว้ เพื่อใช้อำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้คิดว่าเป็นรถตำรวจ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีต่อไป
นายบุญมี กุหลาบแก้ว อายุ 72 ปี พ่อค้าข้าวแกงตลาดเจ้าพรหม ที่ถูกคนร้ายใช้รถพุ่งชนขณะขับรถจักรยานยนต์มาที่ตลาดเพื่อขายของ กล่าวว่า ตำรวจทำถูก แล้วเพราะคนขับรถเก๋งได้ขับรถอันตราย และแหวกวงล้อมมาจนชนรถตนเอง และชนอีกหลายคัน โดยตนเองก็บาดเจ็บเพราะแรงกระแทก ซึ่งรถเก๋งที่ก่อเหตุขับหนีแบบไม่สนใจว่าใครจะใช้ถนนร่วมบนถนน และตำรวจยิงใส่ยางรถดังกล่าวถือว่าถูกแล้ว เพราะหากไม่ยิง ไม่รู้มันจะไปชนใครตายบ้าง