พระนครศรีอยุธยา - เริ่มแล้วงาน “ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ฯ วันแรกที่พระนครศรีอยุธยา ระหว่าง 2-4 สิงหาคมนี้ ณ ศาลากลางหลังเก่า กรุงเก่า
ที่ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อค่ำของวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.สุวันทะ แหนนะทิเค ศานตะ โกฏเฏโกฑะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ประจำประเทศไทย ท่าน เอ คา นา ยาเคส เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา พร้อมด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา และคณะผู้บริหารจังหวัด ร่วมกันเปิดงาน “ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า กำหนดการจัดงานในวันที่ 2-4 สิงหาคม 2555 นี้ ณ ศาลากลางหลังเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา
ภายในงานมีการจัดแสดงขบวนแห่ “เอสาละ เปราเหรา” ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์ของศรีลังกา นอกจากนี้ ยังมีการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี นาฏศิลป์พื้นเมือง และสาธิตงานหัตถกรรมต่างๆ พร้อมทั้งการออกร้านจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ชาซีลอน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาที่ดีที่สุดของโลก อัญมณี เครื่องประดับ ตลอดจนอาหารคาวหวานจานเด่นของศรีลังกา
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ศรีลังกากับไทย โดยเฉพาะแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา เป็นเหมือนญาติที่สนิทกันมาตั้งแต่โบราณ โดยในสมัยกรุงศรีอยุธยา คณะพระธรรมทูตไทยได้ไปฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา อันเป็นที่มาของ “สยามวงศ์” และ “สยามนิกาย” ที่เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน
อีกทั้งการจัดงานนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ฯ โดยอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของศรีลังกา คือ “พระเขี้ยวแก้ว” จากเมืองแคนดี้ (องค์จำลอง) ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา และจัดแสดงขบวนแห่ “เอสาละ เปราเหรา” ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์ของศรีลังกา
พล.อ.สุวันทะ แหนนะทิเค ศานตะ โกฏเฏโกฑะ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ทางสถานทูตศรีลังกาของเราให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ นอกจากเพื่อเป็นการย้อนรำลึกถึงความสัมพันธ์แล้ว ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ซึ่งพุทธศาสนิกชนในไทย จะได้มีโอกาสกราบสักการะพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเปรียบเสมือนได้เดินทางมาเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้นมัสการพระธรรมคำสอนในพระคัมภีร์ใบลานที่นำมาจัดแสดงด้วย
อย่างไรก็ตาม จะได้มีการจัดการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองหลายชุดที่หาชมได้ยาก มีเอกลักษณ์เด่น คือ ลีลาท่วงท่าที่โลดโผน ว่องไว การแสดงหุ่นสายแบบดั้งเดิม การฉายภาพยนตร์ การสาธิตงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ เช่น การแกะสลักไม้ การทำเครื่องทองเหลือง
