ผจก.คิวรถตู้สายกรุงเทพฯ-กาญจน์ ขึ้นโรงพักหลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกยึดตู้ขายตั๋วรถ

กาญจนบุรี - ผจก.คิวรถตู้สายกรุงเทพฯ-กาญจน์ และเป็น ผจก.สโมสรฟุตบอลกาญจนบุรีเอฟซี ขึ้นโรงพักลงบันทึกประจำวัน หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกยึดตู้ขายตั๋วรถตู้สายกรุงเทพฯ-กาญจน์กลางดึก

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.55) นายภานุรัตน์ ก้านนาค อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/21 หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี มีตำแหน่งเป็น กก.ผจก.บริษัทหนุมานทัวร์ จำกัด ซึ่งวิ่งรถตู้ประจำทางแบบรถร่วมจัดระเบียบ ( ม 2 ต.) สายกาญจนบุรี - กรุงเทพฯ (สาย 81) และมีตำแหน่งเป็น ผจก.สโมสรกาญจนบุรีเอฟซี ดิวิชั่น 2 (ทีมค้างคาวมหากาญจน์) พร้อมนางสาวธัญลักษณ์ พุ่มขู่ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/28 หมู่ 5 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บำรุง วสุนธรานิติกุล พงส.(สบ.3) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อขอลงประจำวันเป็นหลักฐานเพิ่มเติมกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกกลุ่มผู้ชายประมาณ 20 คน บุกเข้ารื้อท่าวินรถตู้ภายในสถานีขนส่งกาญจนบุรี เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ห่างจาก สภ.เมืองกาญจนบุรี ประมาณ 100 เมตร

โดยนางสาวธัญลักษณ์ เป็นผู้แจ้งต่อ พ.ต.ท.บำรุง ว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น.ของวันที่ 29 ก.ค.55 ได้คนพากลุ่มชายประมาณ 20 คน ทำการรื้อตู้คอมแอร์และตัดสายไฟเพื่อจะทำการยกตู้ขายตั๋วของรถตู้สายกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นของผู้แจ้งทำให้ทรัพย์สินของผู้แจ้งเสียหาย จากนั้นผู้แจ้งได้มาที่ที่เกิดเหตุ และได้เจรจากันขอให้ชายทั้งหมดซ่อมตู้ขายตั๋วให้อยู่ในสภาพเดิม จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากแจ้งความ นายภานุรัตน์ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาเพื่อแก้ไขรายงานประจำวันต่อพนักงานสอบสวน ก่อนหน้าจะมีเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) และเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา นายสันทัด แก้วนาค อายุ 40 ปี ตัวแทนบริษัท ซึ่งเป็นพี่ชายของตนได้ทำสัญญาให้สิทธิอาศัยและใช้ประโยชน์ระหว่างกับกลุ่มวินรถจงเจริญ โดยนางสาวแก้วตา นุ่มเจริญ ผู้ให้บริการรถโดยสารตู้ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (สาย 81) กรุงเทพฯ พุทธมณฑล กาญจนบุรี ซึ่งการร่วมงานก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จนกระทั่งเมื่อประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา นางสาวแก้วตา ขอให้ตนนำตู้จำหน่ายตั๋ววินออกไป เพราะจะดำเนินการเอง จึงนัดนางสาวแก้วตา ให้มีการเจรจากับทางปลัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยทางปลัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี มีบทสรุปให้ตนดำเนินกิจการต่อไป ส่วนนางสาวแก้วตา ให้มาวางคิวข้างกันต่างคนต่างทำ ซึ่งก็ได้ข้อสรุปด้วยดี แต่เมื่อคืนนี้ก็เกิดเหตุการณ์พาชายฉกรรจ์มาก่อปัญหา และมีการให้นามบัตรว่าเป็นคนมีสี รวมถึงมีชายแสดงตนว่าเป็นนายตำรวจจากส่วนกลางด้วย

ผจก.สโมสรกาญจนบุรีเอฟซี กล่าวต่อว่า หลังจากเหตุการณ์เหมือนจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้ง ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี สักพักก็มีรถยนต์สายตรวจและรถจักรยานยนต์สายตรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี มาระงับเหตุ กลุ่มชายทั้งหมดจึงถอนกำลัง และบอกตนว่าจะดูแลการติดตั้งแอร์ที่ถอดให้ก่อนจะพากันสลายตัวไป ตนเห็นว่าการกระทำแบบนี้เป็นการเอาอิทธิพลในเครื่องแบบมาข่มขู่ตนชัดๆ ตอนแรกตนไม่กล้าแม้จะลงประจำวันเพราะกลัวอิทธิพลจะเป็นภัยแก่ตัวเอง

"แต่วันนี้พรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นห่วงบอกให้ตนมาลงประจำวันเป็นหลักฐานเอาไว้ก่อน หากมีปัญหาภายหลังจะได้ทราบว่าเพราะอะไร จึงตัดสินใจมาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และหากฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมจบเรื่องนี้เอาอิทธิพลหรือกำลังคนมาข่มขู่อีกจะเอาหลักฐานที่มีแจ้งดำเนินอาญาแน่นอน"