บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์ ร่วมฝ่ายปกครอง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ระดมเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจคัดกรองเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ ผ่านเข้า-ออก ตลาดการค้าชายไทย-เขมร “ช่องสายตะกู” หากพบป่วยต้องสงสัยห้ามเข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมบริการเจลล้างมือแจกแผ่นพับวิธีป้องกัน สกัดกั้นโรคมือเท้าปากระบาด ขณะแม่ค้าเผยกระแสโรคระบาดกระทบการซื้อขายเงียบเหงาลดลงกวา 20%
วันนี้ (27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปตั้งจุดตรวจคัดกรองเด็กมีอายุต่ำกว่า 7 ขวบ ที่ผ่านเข้า-ออกบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ต.จับทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่เปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่งทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันในวันศุกร์ และวันเสาร์ สัปดาห์ละ 2 วัน
โดยหากตรวจพบเด็กที่มีอาการป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อโรคมือ เท้า ปาก ก็จะไม่ให้ผ่านเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการสกัดกั้นป้องกันโรคมือ เท้า ปาก เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ ขณะที่ล่าสุด จังหวัดบุรีรัมย์พบเด็กป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปากแล้ว 236 ราย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจคัดกรองยังไม่พบเด็กที่มีอาการป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยแต่อย่างใด มีเพียงเด็ก และประชาชนชาวกัมพูชาที่เจ็บป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา และมีบาดแผลเล็กน้อย ข้ามเข้ามาตรวจรักษากับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดให้บริการ บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู สัปดาห์ละ 40-50 รายเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้บริการเจลล้างมือ พร้อมติดป้ายประชาสัมพันธ์ และแจกแผ่นพับแนะนำตัววิธีการป้องกันโรคมือเท้าให้แก่ประชาชนที่ผ่านเข้าออกจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูดังกล่าวด้วย
ด้านนางส่ง ร่างจันทึก อายุ 41 ปี แม่ค้าชาวไทยรายหนึ่ง บอกว่า หลังจากมีกระแสข่าวการระบาดของโรค มือ เท้า ปากทั้งในไทย และประเทศกัมพูชา ก็ส่งผลกระทบทำให้บรรยากาศการซื้อขายสินค้าที่บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเงียบเหงา ทำให้ยอดขายลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้หลายหน่วยงานจะมีการรณรงค์ป้องกันอย่างเข้มงวดก็ตาม แต่ประชาชนบางส่วนก็ยังตื่นตระหนกกับกระแสดังกล่าว จึงยังไม่กล้าเดินทางมาซื้อขายสินค้าที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู