หนุ่มลำปางโร่ร้องสื่อช่วยแพร่ภาพคนร้ายลัก จยย.บอกรู้ตัวแล้วแต่ ตร.ยังตามจับไม่ได้

ลำปาง - หนุ่มเมืองลำปาง โร่ขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ช่วยเผยแพร่รูปคนร้ายขโมยรถจักยายนต์หนีไร้ร่องรอย บอกรู้ตัวและไปตามหาถึงบ้านจนเจอแม่คนร้ายแล้ว แต่แม่คนร้ายกลับขอร้องให้รอ บอกถ้าลูกชายเบื่อจะนำมาส่งคืนเอง เหมือนกับที่เคยทำมาแล้วร่วม 30 คัน

วันนี้ (27 ก.ค.55) นายสมบูรณ์ อินต๊ะสงค์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.4 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำรูปภาพที่คัดสำเนาจากมาจากทะเบียนราษฎร์ ของสถานีตำรวจเมืองลำปาง เข้าขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน เพื่อขอให้ช่วยกระจายข่าว-เผยแพร่รูปของคนร้ายที่ขโมยรถจักรยายนต์ของเขาไป แต่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวได้ ซึ่งขณะนี้ตนเองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นายสมบูรณ์ ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.55 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. ตนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ ทะเบียน ขตข 603 ลำปาง ไปซื้อยาสีฟันที่ร้านขายของชำใกล้กับโรงแรมแสนสุข ถนนบุญวาทย์ เมื่อตนจอดรถและดับเครื่องยนต์แล้วก็เดินเข้าไปซื้อของ แต่ไม่ได้นำกุญแจรถออกจากรถ เพราะคิดว่าเข้าไปซื้อของเดี๋ยวเดียว แต่ขณะที่กำลังจ่ายเงินอยู่ก็เห็นชายคนหนึ่งจูงรถของตนเองออกไป และสตาร์ทเครื่อง ตนจึงรีบชำระเงินแล้ววิ่งออกมา ปรากฏว่าคนร้ายได้ขับรถหายไปแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไร้วี่แวว ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปางไว้

ต่อมาตนได้ขอให้ตำรวจ และตำรวจบ้าน ออกสืบเบาะแสของคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายคือ นายสุนทร แดนประเทือง หรือโก้ อายุ 31 ปี และมีประวัติในคดีเกี่ยวการลักทรัพย์ (รถจักรยายนต์) อยู่ที่ สภ.แม่ทะ ด้วย จึงได้ไปติดตามที่บ้านพัก ซึ่งได้พบกับนางน้อย(นามสมมติ) มารดาของนายโก้ ส่วนนายโก้ ไม่ได้อยู่ที่บ้าน

นางน้อย ได้ยอมรับว่า ก่อนหน้านั้น เห็นบุตรชายคือนายโก้ ได้นำรถจักรยายนต์ ทะเบียน ตามที่ระบุ เข้ามาในบ้านจริง และตนเองก็พยายามที่จะยึดไว้ แต่ไม่ทัน นายโก้ ได้ขับหนีออกจากบ้านและไม่เข้ามาอีกเลย จนล่าสุดได้โทรศัพท์มาบอกว่าได้นำรถไปจอดทิ้งไว้ ณ ที่แห่งหนึ่งแล้ว แต่ไปดูแล้วก็ไม่มี

ทั้งนี้ นางน้อย ได้เล่าต่อว่า นายโก้ บุตรชายเคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง เมื่อชอบรถคันไหนก็จะไปเอามาขับ เมื่อเบื่อก็จะนำไปจอดทิ้งไว้แล้วให้ตนไปบอกผู้เสียหายไปเอา ซึ่งนับรวมแล้วน่าจะประมาณ 30 คัน ทุกครั้งตนต้องยกมือไหว้ร้องขอเจ้าทุกข์ไม่ให้เอาเรื่อง และครั้งนี้ก็เช่นกันตนอยากขออย่าเอาเรื่อง และขอให้นายสมบูรณ์ อดทนรอสักหนึ่งเดือน หากลูกชายเบื่อก็จะเอารถมาคืนเอง

นายสมบูรณ์ ผู้เสียหาย ได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเนื่องจากที่บ้านมีรถมอเตอร์ไซค์เพียงคันเดียว และกำลังผ่อนค่างวดอยู่ด้วย ตนทำงานเป็น รปภ. ของบริษัทแห่งหนึ่ง ต้องทำงานในเวลากลางคืน ต้องเดินไปกลับที่ทำงานทุกวัน ๆ ละร่วม 4 กิโลเมตร เดินไปส่งลูกไปโรงเรียน ส่วนภรรยาก็ต้องเดินไปตลาด ขากลับก็ต้องขึ้นรถรับจ้างเข้าบ้าน

ส่วนกลางวันตน และภรรยาจะรับจ้างซักผ้า ซึ่งขณะนี้ไม่มีรถจะนำผ้าไปส่งลูกค้าที่อยู่ห่างไกล จึงทำให้ลูกค้าเลิกจ้าง รายได้ครอบครัวก็ลดลงด้วย จึงอยากขอความช่วยเหลือจากสื่อและประชาชนหากพบเห็นคนร้าย ขอให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำตัวมาดำเนินคดีและนำรถมาคืนตนด้วยเพราะขณะนี้เดือดร้อนมาก